ยุทธนา หยิมการุณ อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และผู้จัดการทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เผยชัดเข้ามาช่วยทัพช้างศึก เพราะต้องการยกระดับวงการลูกหนังไทยสู่ระดับเอเชีย พร้อมตอบคำถามสื่อมวลชนถึงโอกาสสานต่อตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คนต่อไป

‘บิ๊กหยิม’ เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไทย U23 พร้อมแต่งตั้ง ‘โค้ชหระ’ อิสสระ ศรีทะโร มาทำหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ เพื่อเตรียมทัพช้างศึก U23 ลุยทัวร์นาเมนต์สำคัญในปี 2023 โดยเฉพาะเป้าหมายใหญ่คือการคว้าตั๋วไปลุยศึกฟุตบอลชายในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

โดยในงานแถลงข่าวเปิดตัวเฮดโค้ชคนใหม่ของทีมชาติไทย U23 เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ‘บิ๊กหยิม’ ยุทธนา หยิมการุณ มีโอกาสเปิดใจถึงเหตุผลการเลือกมารับหน้าที่ผู้จัดการทีม และเผยถึงโอกาสการสานต่อตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ต่อจาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่จะหมดวาระในปี 2567

“ผมผ่านเบอร์ 1 ระบบราชการมาแล้ว แต่ผมรักฟุตบอล ท่านนายกสมยศเชิญมาช่วยงาน มันมีความสุข แต่การเป็นนายกส.บอลฯ ไม่ง่าย ไม่ใช่บริหารทีมชาติอย่างเดียว ต้องบริหารหลาย ๆ อย่าง” บิ๊กหยิม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัวโค้ชอิสสระ ศรีทะโร
“ท่านสมยศ เป็นนายกคนปัจจุบัน การพัฒนาต่าง ๆ เรื่องไลเซนต์ก็พัฒนาไปได้ดี พัฒนาเรื่องกรรมการ ต่อไปสมาคมฟุตบอลก็จะไม่ได้อยู่ตรงที่เดิมนี้ จะไปอยู่ใกล้ ๆ กับสนามราชมังคลาฯ”

“ผมมาตรงนี้ ผมเข้ามาช่วยแล้วกัน ผมไม่มีในหัวว่าผมมาช่วยแล้วจะได้เป็นนายก แต่ผมมาเพราะผมรักฟุตบอลจริง ๆ ผมตั้งเป้าอยากให้ทีมชาติไทย ติดอันดับ 1-10 ของทวีปเอเชีย และอันดับโลกอยากให้อยู่ในท็อป 100 ให้ได้”

ทั้งนี้ ‘บิ๊กหยิม’ ยุทธนา หยิมการุณ เตรียมประเดิมบริหารงานภายในทีมชาติไทย U23 ภารกิจแรก ในโปรแกรมฟีฟ่าเดย์ เดือนธันวาคม 2565 ด้วยการนำทีมชาติไทย U23 ลงอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติสปป.ลาว ชุดใหญ่ จำนวน 2 เกม ประกอบด้วย ในวันที่ 11 และ 14 ธันวาคม 2565 เวลา 17.30 น. ที่สนาม ธรรมศาสตร์ สเตเดียม