ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวออกมาว่าเขาได้ทำการเตรียมฟ้องเกรียนคีย์บอร์ดที่เอ่ยถึงตนเองแบบเสียๆ หายๆ โดยที่ไม่เป็นความจริงและจะไม่มีการยอมความแต่อย่างใด ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่คุมทีมชาติไทยเอาไว้ว่าอย่างแรกตนเองต้องขอขอบคุณมาดามแป้งและคุณเอเป็นอย่างมาก หลังจบการแข่งขัน u23 แล้วตนเองก็อยากจะหยุด เป้าหมายของตนเองคือการชิงแชมป์เอเชียรอบสุดท้ายในอุซเบกิสถานให้สำเร็จ อยากเป็นโค้ชสักครั้งในการแข่งขันรอบสุดท้าย แม้ว่าผลงานอาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายแต่ก็ขอหยุดไว้เพียงแค่นี้ ที่สำคัญคือทุกคนให้โอกาส อีกอย่างมันเป็นเวลาที่พอดีสำหรับการรับงานกับเกษตรศาสตร์ต่อ ต้องขอบคุณไปยังสมาคมฟุตบอลด้วย ความจริงแล้วในชุด U23 จะมีการแข่งขันต่อในอีก 2 ปีข้างหน้า หาโค้ดทวีโชคยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยก็ยังคงมีรายชื่อนักกีฬาอยู่ ตนเองได้พูดคุยกับโค้ชโชครวมไปถึงคุณเอและมาดามแป้งแล้วว่าหากมีอะไรที่สามารถช่วยได้ก็พร้อมที่จะช่วย อย่างเช่นรายชื่อผู้แข่งขันที่เราสามารถสนับสนุนได้ 

     หลังจากนั้นก็ได้มีการเปิดใจถึงประเด็นการฟ้องเกรียนคีย์บอร์ดที่โพสต์ด่าตนเองบนโลกโซเชียลเอาไว้ว่าบางคนคอมเม้นในสิ่งที่ตนเองไม่ทราบ บางคนก็นอกเรื่องไปไกล มันก็ต้องโดนกันบ้าง ที่สำคัญคือตนเองไม่รับคำขอโทษ ทุกบาททุกสตางค์ที่ผักฟ้องได้ตนเองคุยไว้หมดแล้วไม่ว่าจะเป็นกับตำรวจหรือทนายว่าจะนำเงินทั้งหมดไปซื้ออุปกรณ์กีฬาบริจาคทั่วประเทศ ต้องจำไว้ว่าบางสิ่งที่คุณทำตนเองสามารถรับได้ แต่ครอบครัวและเพื่อนของตนเองนั้นไม่สามารถรับได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นมากล้าทำก็ต้องกล้ารับ สิทธิส่วนบุคคลนั้นมีเท่ากันไม่ว่าจะอาชีพใดก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือเราไม่สามารถได้ค่าโดยเฉพาะคนในประเทศด้วยกัน คนที่มาทางทีมชาติแล้วต้องเจอแบบนี้ต้องลงได้สวยแบบนี้ทุกคน และตนเองไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้กับโค้ชคนอื่นอีก หนังผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการฟ้องทั้งหมดกี่เคสและเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเท่าไหร่ โค้ชโย่งได้ตอบว่ามี 10 เคสที่พรรคพวกของตนเองให้แจ้งความ ในความจริงแล้วมีมากกว่านั้น แต่มีการลบข้อความไปเป็นจำนวนมาก ส่วนค่าเสียหายนั้นรวมแล้วได้หลักล้าน และตนเองจะนำเอาไปซื้ออุปกรณ์กีฬาเพื่อบริจาคให้กับทั่วทั้งประเทศ