การแข่งขันในครั้งนี้ถือว่าสามารถทำผลงานออกมาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว พวกเขาสามารถเอาชนะทีมชาติมัลดีฟส์ไปได้ด้วยคะแนนที่งดงามกว่า 3 ประตูต่อ 0 และเมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมาทีมชาติไทยของเราก็สามารถเอาชนะศรีลังกาได้สำเร็จไปด้วยคะแนนกว่า 2 ประตูต่อ 0 ทำให้พวกเขาสามารถเก็บ 6 แต้มได้อย่างงดงาม

     ตามเป้าหมายที่มาโน่ โพลกิ้งโค้ชประจำทีมชาติไทยตั้งเป้าเอาไว้ตั้งแต่แรก เนื่องจากทีมชาติไทยนั้นต้องพบกับทีมเจ้าบ้านอย่างอุซเบกิสถานที่แข็งแกร่งและมีอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งดีที่สุดในกลุ่ม หากต้องการเข้าสู่รอบสุดท้ายให้สำเร็จจึงต้องการันตีว่าจะได้ 6 แต้มจากการแข่งขัน 2 นัดแรกแล้วไปลุ้นเอาอีกทีว่าจะชนะอุซเบกิสถานหรือไม่ ในตอนนี้ทีมชาติไทยจึงมีอยู่ 2 ทางที่ต้องลุ้นนั่นก็คือการเอาชนะอุซเบกิสถานและการภาวนาให้ผลงานของการแข่งขันนัดอื่นช่วยส่งให้พวกเขาได้เข้าสู่รอบสุดท้ายสำเร็จ

     แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าพวกเขาจะค่อนข้างได้รับการการันตีและว่าจะได้ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเป็นทีมอันดับ 2 ที่ดีที่สุดจาก 5 ทั้งหมด 6 กลุ่มรวมเป็น 11 ทีมได้สำเร็จ ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีกรณีที่สามารถเกิดขึ้นได้และมันอาจจะทำให้ทีมชาติไทยต้องเผชิญกับฝันร้ายในการตกรอบการแข่งขันเอเชียนคัพ 2023 เช่นเดียวกัน อาจเป็นหนทางที่เป็นไปได้ยากพอสมควรแต่ถึงอย่างไรก็ตามมันก็ยังคงสามารถเกิดขึ้นได้

     ทีมชาติไทยจะตกรอบหากพวกเขาไม่สามารถเอาชนะอุซเบกิสถานได้สำเร็จและคู่แข่งที่ระดับ 2 ที่ดีที่สุดในกลุ่มอื่นไม่มีทีมไหนพลาดเลยแม้แต่น้อย นั่นก็คือคีร์กีซสถานจะต้องเสมอกับทาจิกิสถาน อินเดียต้องเสมอกับฮ่องกง ศิลปินต้องเอาชนะปาเลสไตน์ได้สำเร็จ มาเลเซียต้องชนะบังคลาเทศให้สำเร็จ ในขณะที่อินโดนีเซียจะต้องเอาชนะเนปาลให้สำเร็จเช่นเดียวกัน หากเป็นเช่นนี้แล้วเท่ากับว่าทีมชาติไทยจะเป็นอันตกรอบในทันที

     ดังนั้นเพื่อความมั่นใจว่าจะได้เข้าสู่รอบสุดท้ายให้สำเร็จพวกเขาจึงต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเอาชนะอุซเบกิสถานให้ได้เท่านั้น ซึ่งการแข่งขันรอบคัดเลือกจะนำเอาทั้งหมด 11 ทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายจากทั้งหมด 24 ทีม ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 13 ทีมที่ลงแข่งขันรอบสุดท้ายไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น กาตาร์ ซีเรีย เกาหลีใต้ อิหร่าน ออสเตรเลีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย อิรัก จีน เวียดนาม โอมาน และเลบานอน