ประวัตินักฟุตบอล ดิดิเยร์ ดร็อกบา Didier Drogba ชายที่สร้างความสุขมากกว่าในสนามฟุตบอล
ประวัตินักฟุตบอล ดิดิเยร์ ดร็อกบา Didier Drogba นักฟุตบอลที่เป็นมากกว่านักฟุตบอลของคนทั้งชาติ ชายผู้ที่ใช้ความสามารถในการเล่นฟุตบอลเปลี่ยนแปลงอนาคตของทั้งชาติ ชายผู้เปลี่ยนการนองเลือดในกลายเป็นรอยยิ้มใน ไอวอรีโคสต์

ดร็อกบา เกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ 1978 ในเมืองอาบีจาน ไอวอรีโคสต์
เขาเกิดในครอบครวยากจนจนเขาต้องย้ายไปอยู่กับคุณลุงซึ่งเป็นพี่ชายของแม่
ที่ประเทศฝรั่งเศสก่อนจะซึมซับบรรยากาศของโลกฟุตบอล

ขาเริ่มเข้าฝึกฝนฟึตบอลแบบจริงจังตอนอายุ 15 ขวบ ก่อนที่จะได้เซ็นต์สัญญา
เป็นนักฟุตบอลอาชีพกับสโมสรเลอ ม็องส์ เป็นสโมสรแรกในชีวิตในปี 1999 หลังจากนั้น
2 ปี ด้วยผลงานที่โดดเด่นทำให้ แก็งก็องทีมบนลีกสูงสุดของเมืองน้ำหอม
เซ็นต์สัญญากับเขาและอยู่กับทีมได้แค่ 1 ปี ก็ได้ขยับขึ้นมาอยู่กับทีมที่เป็น
ทีมระดับต้น ๆ ของลีกเอิงฝรั่งเศสอย่างโอลิมปิก มาร์กเซย

หลังจากนั้นเพียงแค่ฤดูกาลเดียวด้วยฟอร์มที่โดดเด่นยิงไป 19 ทำให้ไปเข้าตา
ยอดทีมจากเมืองลอนดอนที่ต้องยอมประเคนค่าตัวกระชากเข้ามาเสริม
เป็นอาวุธในการไล่ล่าแชมป์ของสิงโตน้ำเงินครามด้วยค่าตัว 24.4 ล้านปอนด์

ฤดูกาล 2004/2005 ที่เขาย้ายเข้ามาสวมยูนิฟอร์มสีน้ำเงินเข้าก็สามารถพาทีม
คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เลยทันทีถึงแม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนแต่
เขาก็สามารถทำได้ถึง 16 ประตูฤดูกาลต่อมาถึงแม้เชลซี จะไม่ประสบความสำเร็จ
แต่ผลงานส่วนตัวของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี
เขาสามารถทำได้ไปถึง 16 ประตูอีกครั้ง

ในฤดูกาล 2006/2007 ถือเป็นปีที่เขาสามารถเรียกฟอร์มเก่งได้อย่างต่อเนื่อง
เขายิงไปได้ถึง 33 ประตูและยังเป็นผู้เล่นเชลซีที่ลงสนามมากที่สุดในฤดูกาลนั้น
เขาลงสนามไปถึง 60 นัดมากเป็นอันดับ 2 ของประวัติศาสตร์ของสโมสร และยังพาทีม
คว้าแชมป์ เอฟเอคัพด้วยการยิงประตูใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในนัดชิงชนะเลิศอีกด้วย
ฤดูกาลต่อมาเป็นปีที่สาวกสิงโตน้ำเงินครามคงจำได้ดีกับนัดชิงชนะเลิศถ้วยยุโรปที่ เขาโดนใบแดง และทีมพลาดท่าแพ้จุดโทษให้กับคู่ปรับอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ฤดูกาล 2009-2010 เป็นอีกปีที่ ดิดิเยร์ กลับมามีฟอร์มสะเด่าอีกครั้ง
ด้วยการซัดไปทั้งหมด 37 ประเทศรวมทุกรายการทำให้เชลซีความแชมป์ลีก
รวมถึงฟุตบอลเอฟเอคัพเป็นการได้ดับเบิ้ลแชมปครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
ส่วน ดร็อกบาได้รางวัลดาวซัลโวรวมถึงนักเตะยอดเยี่ยมจากการโหวตของแฟนบอล
อีกด้วยฤดูกาลที่แฟนบอลสิงโตน้ำเงินคงจะมีความสุขมากที่สุดคือฤดูกาล 2011-2012
ที่ดร็อกบาร์เป็นนักเตะคนสำคัญโหม่งประตูตีเสมอก่อนหมดเวลา 90 นาที
ก่อนที่จะเอาชนะจุดโทษ พาเชลซีคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่

รางวัลทั้งหมดที่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ได้รับตลอดอาชีพการค้าแข้ง
สโมสรเชลซี, อังกฤษ
- แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 4 สมัย : 2004-05, 2005-06, 2009-10, 2014-15
- แชมป์ เอฟเอคัพ 4 สมัย : 2006-07, 2008-09, 2009-10, 2011-12
- แชมป์ ลีกคัพ 3 ครั้ง : 2004-05, 2006-07, 2014-15
- แชมป์ คอมมินิตี้ติล 2 สมัย : 2005, 2009
- แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย : 2011-12
สโมสรกาลาตาซาราย, ตุรกี
- แชมป์ เทอร์กิชซูเปอร์ลีก 1 สมัย : 2012-2013
- แชมป์ เทอร์กิชซูเปอร์คัพ 1 สมัย : 2013
- แชมป์ เทอร์กิชคัพ 1 สมัย : 2013-14
รางวัลส่วนตัว ดิดิเยร์ ดร็อกบา Didier Drogba
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกเอิง ฝรั่งเศส 1 สมัย : 2003-04
- นักฟุตบอลแอฟริกันยอดเยี่ยมแห่งปี 2 สมัย : 2006, 2009
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำชาติไอวอรี่ย์โคตส์ สมัย : 2006, 2007, 2012
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรฟุตบอลเชลซี 1 สมัย : 2010
- รองเท้าทองคำ (พรีเมียร์ลีก) 2 สมัย : 2006-07, 2009-10
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของซุปเปอร์ลีก ตุรกี 1 สมัย : 2013
_________________________________________________________________________________
อ่านข่าวสารเพิ่มเติม : ข่าวฟุตบอลต่างประเทศล่าสุด
ติดตามประวัตินักฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ : ประวัตินักฟุตบอล
Facebook fanpage : SoccerSociety