ประวัติ สารัช อยู่เย็น มิดฟิลด์ทีมชาติไทย

     ประวัติ สารัช อยู่เย็น มิดฟิลด์ทีมชาติไทย Sarach Yooyen นักฟุตบอลทีมชาติไทย 2013-ปัจจุบัน ลงเล่น 68 นัด ยิง 5 ประตู สังกัดสโมสร บีจี ปทุมยูไนเต็ด เข้าร่วมเมื่อ พฤษภาคม 2020-ปัจจุบัน ลงเล่น 42 นัด 0 ประตู วันนี้เราจะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับมิดฟิลด์หัวใจสำคัญทีมชาติไทยผู้นี้กันเลย

ประวัติ-สารัช-อยู่เย็น-มิดฟิลด์ทีมชาติไทย

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม : สิบตำรวจตรี สารัช อยู่เย็น

วันเกิด : เกิดวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 (30 ปี )

สถานณ์ที่ : จังหวัดสมุทรปราการ ประเทศไทย

ส่วนสูง : 1.68 เมตร (5 ฟุต 6 นิ้ว)

สโมสรปัจจุบัน : บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ตำแหน่งที่เล่น : กองกลาง

สวมเสื้อเบอร์ : 6

ลงเล่น : พฤษภาคม 2020-ปัจจุบัน  

ประวัติ-สารัช-อยู่เย็น-มิดฟิลด์ทีมชาติไทย

สารัช อยู่เย็น เกิดวันที่ 30 พฤษภาคม 1992 ที่จังหวัดสมุทรปราการ ประเทศไทย เริ่มต้นเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 7 ขวบ แล้วเริ่มเล่นแบบจริงจังในช่วงที่เรียนอยู่อัสสัมชัญธนบุรี ก่อนจะกลายเป็นนักเตะของสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังเรียนจบ

สารัช อยู่เย็น กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด

ปี 2010 สารัช อยู่เย็น กลายเป็นนักในทีมเยาวชนของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ไม่ค่อยได้รีบโอกาสในทีมชุดใหญ่ ถูกส่งตัวไปให้ ภูเก็ต อันดามัน ยืมตัวไปใช้งานในปี 2011 ต่อด้วย นครราชสีมา มาสด้า ในปี 2013

ฤดูกาล 2014 (ไทยลีกจบในปีเดียว) สารัช ถูกเรียกตัวกลับมารับใช้ต้นสังกัด เขากลายเป็นตัวหลักของทีม ได้ลงเล่น 31 นัด ยิง 2 ประตู เมืองทองฯ จบด้วยอันดับที่ 6 แล้วในฤดูกาล 2015 สารัช ลงเล่น 32 นัด ยิง 5 ประตู คราวนี้เมืองทองฯ จบด้วยรองแชมป์ ตามหลัง บุรีรัย์ ยูไนเต็ด 13 คะแนน

ประวัติ-สารัช-อยู่เย็น-มิดฟิลด์ทีมชาติไทย

ฤดูกาล 2016 สารัช ยังเป็นตัวหลักของทีมเช่นเดิม ลงเล่น 35 นัด ยิง 1 ประตู เมืองทอง ยูไนเต็ด จบด้วยการเป็นแชมป์ไทยลีก มีแต้มเหนือ แบ็งคอก ยูไนเต็ด 5 คะแนน และนั่นเป็นแชมป์แรกร่วมกับกิเลนผยอง ในฐานะตัวหลัก โดยในปี 2012 เคยคว้าแชมป์ไทยลีกมาแล้ว 1 หน แต่สารัชมีเพียงรายชื่อในทีมชุดดังกล่าวแต่ไม่ได้ลงเล่นสักนัด

ฤดูกาล 2017 สารัช มีอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้ได้ลงเล่นเพียง 13 นัด แล้วกลับมาเป็นตัวหลักอีกครั้งในซีซั่น 2018 กับซีซั่น 2019 แต่ เมืองทองฯ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จอะไร จึงต้องการยกเครื่องครั้งใหญ่

มิดฟิลด์ทีมชาติไทย

สารัช อยู่เย็น กับ บีจี ปทุมยูไนเต็ด

ฤดูกาล 2020/21 (ไทยลีกเปลี่ยนมาจบซีซั่นแบบอังกฤษ) บีจี ปทุมยูไนเต็ด เปลี่ยนทีมครั้งสำคัญ พวกเขาปล่อยผู้เล่นออกจากทีมหลายคน พร้อมกับดึงตัวผู้เล่นเข้าสู่ทีมมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ สารัช อยู่เย็น กับ ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งฤดูกาลดังกล่าว สารัชมีส่วนร่วม 24 นัด เป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการพา BG คว้าแชมป์ไทยลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

มิดฟิลด์ทีมชาติไทย

ฤดูกาล 2021/22 สารัช ลงเล่น 40 นัดรวมทุกรายการ แบ่งเป็นการเล่นไทยลีก 26 นัด น่าเสียดายที่ บีจี ปทุมฯ ไม่สามารถป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ โดยพ่าย บุรีรัมย์ฯ แค่ 2 คะแนนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สารัชมีส่วนสำคัญในการพาทีมเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายฟุตบอลเอฟเอซี แชมป์เปียนลีก ก่อนจะพ่าย อูราวะ เรด ไดมอนด์ 0-4

ฤดูกาล 2022/23 (ปัจจุบัน) สารัช อยู่เย็น กลายเป็นกัปตันทีมของ บีจี ปทุมยูไนเต็ด ผ่านไป 18 นัด ยังไม่พลาดเกมลีกสักนัด มี 1 สกอร์ 1 แอสซิสต์ พาทีมอยู่ที่ 7 ของตาราง

มิดฟิลด์ทีมชาติไทย

สารัช อยู่เย็น กับ ทีมชาติไทย

สารัช อยู่เย็น รับใช้ทีมชาติไทยตั้งแต่อายุ 16 ปี โดยอยู่ในทีมชาติไทย U16 ชุดแชมป์อาเซียน 2007 จากนั้นวันที่ 19 พฤศจิกายน 2013 สารัช ได้ลงเล่นทีมชาติไทยชุดใหญ่นัดแรก เขามีเวลา 72 นาที ในเกมแพ้ คูเวต 1-3 จากนั้นเปิดตัวในทัวร์นาเมนต์ AFF 2014 คว้าแชมป์ครั้งแรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ แล้วในปี 2015 อายุยังพอเล่นซีเกมส์ได้ และอยู่ในทีมชุดคว้าเหรียญทองที่ประเทศสิงคโปร์

ประวัติ สารัช อยู่เย็น มิดฟิลด์ทีมชาติไทย

เข้าสู่ปี 2016 สารัช ได้ลงเล่น 4/7 นัด มีส่วนร่วมในการพาทีมชาติไทย คว้าแชมป์ AFF 2016 มาครองได้อีกครั้ง หลังเป็นฝ่ายเอาชนะ อินโดนิเซีย ด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-2 ซึ่งในเกมดังกล่าว สารัชยืนแดนกลางร่วมกับ ชารีล ซัปปุยส์ และ ชนาธิป สรงกระสินธิ์

มิดฟิลด์ทีมชาติไทย

ความสำเร็จของ สารัชกับทีมชาติไทย ยังคงมาอย่างต่อเนื่อง แม้ในปี 2018 จะเสียแชมป์ AFF 2018 ด้วยการโดนมาเลเซีย เขี่ยตกรอบรองชนะเลิศ แต่ใน AFF 2020 ต่อเนื่องด้วย AFF 2022 สารัชมีส่วนร่วมในการพาทีมชาติไทยกลับมาคว้าแชมป์ได้ทั้งสองครั้ง

ประวัติ-สารัช-อยู่เย็น-มิดฟิลด์ทีมชาติไทย

รางวัลและเกียรติยศ

สโมสร

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

  • ไทยลีก : 2555, 2559

  • ไทยลีกคัพ : 2559, 2560

  • ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ : 2560

  • แม่โขงคลับแชมเปียนชิพ : 2560

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

  • ไทยลีก : 2563–64

  • ไทยแลนด์แชมเปียนส์คัพ : 2565

ทีมชาติ

  • ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน : 2557, 2559, 2563, 2565

  • ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ : 2559

รางวัลส่วนตัว

  • กองกลางยอดเยี่ยม ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน: 2559

  • ลูกยิงยอดเยี่ยมในไทยลีก: 2564–65 (ในนัดที่พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ติดตามข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ : ข่าวฟุตบอลวันนี้

FACEBOOK FANPAGE : SoccerSociety