ประวัตินักฟุตบอล ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ผู้ชายที่ทำให้ฟุตบอลกลายเป็นเรื่อยง่าย
ประวัตินักฟุตบอล ซลาตัน อิบราฮิโมวิช บทความนี้ ทีมงาน SoccerSociety จะพาเหล่าแฟนบอลไปทำความรู้จัก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ดาวยิงที่ปัจจุบัน ยังคงค้าแข้งอยู่ ถึงแม้วัยจะก้าวสู่อายุ 39 ปีแล้ว แต่ยังคงสามารถลงเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง เอซี มิลานได้แบบหมดจด ด้วยสไตล์การเล่นฟุตบอลที่แตกต่าง การยิงประตูที่หนักหน่วง รูปร่าง สูงใหญ่ แต่พริ้วไหว
เดอะก็อดแห่งเมืองสวีเดน เจ้าของส่วนสูง 192 เซนติเมตร ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เกิดเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 1981 ในเมือง โรเซนการ์ด ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองที่พอจะคุ้นหูกันดีอย่าง มัลโม่

เริ่มเส้นทางการเล่นฟุตบอลจากการเป็นเยาวชนของสโมมร เอฟบีเค บัลคาน ด้วยอายุเพียง 10 ขวบ ก่อนจะได้เซ็นต์สัญญาการเป็นนักฟุตบอลอาชีพครั้งแรกกับสโมสรดังในบ้านเกิดอย่าง มัลโม่ ด้วยวัย 18 ปี ซลาตัน สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการลงเล่นให้มัลโม่ จนไปเข้าตา โรนัล คูมันน์ นายใหญ่ของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทีมดังในลีกดัตซ์ และคว้าตัวไปด้วยราคา 8 ล้านปอนด์

หลังจากถล่มประตูในกับ อาแจ็กซ์ อยู่ 3 ปี ในปี 2004 ซลาตันก็ได้ย้ายไปอยู่สโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่าง ม้าลาย ยูเวนตุส หลังจากนั้นก็โชว์ความมหัศจรรย์พังประตูคู่แข่ง จนเบียด เดล ปิเอโร่ ศูนย์หน้าชาวอิตาลี ตกไปเป็นตัวสำรองของเขา อย่างไม่มีข้อกังขา และยังเอาชนะใจแฟน ๆ ของเจ้ามาลาย จนได้รับโหวตให้เป็น ผู้เล่นยอดเยี่ยมของสโมสร ประจำฤดูกาลนั่นอีกด้วย และในปีต่อมา ในฤดูกาล 2005 ซลาตันก็พาตัวเองขึ้นมาเป็น TOP 10 ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปี ของสมาคมฟุตบอล หรือ FIFA และยังได้รับรางวัลผู้เล่นแห่งปี ของสมาคมฟุตบอล สวีเดนอีกด้วย

ต่อมาในปี 2006 ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ย้ายฝั่งมาอยู่กับ งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน นักเตะทั่วไปอาจจะมีปัญหากับการ ย้ายฝั่งมาอยู่กับคู่ต่อสู้ต้นสังกัดเดิม แต่ไม่ใช่กับ ซลาตัน เขาลงเล่นให้กับ งูใหญ่ไป 117 นัด และถล่มไปถึง 66 ประตู และได้รับรางวัล ดาวซัลโวของลีกแดนมักกะโรนีไป ฤดูกาล 2008/2009 อีกด้วย หลังจากประสบความสำเร็จในดินแดนมักกะโรนี ซลาตันย้ายขึ้นยานแห่งวงการฟุตบอล ย้ายไปสวมยูนิฟอร์ม บาร์เซโลน่า และคว้าแชมป์กับต้นสังกัดใหม่ได้เลยในเวลาเพียงฤดูกาลเดียว แต่เส้นทางกับ เจ้าบุญทุ่มไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบนัก ถึงแม้ผลงาน ในสนามของเจ้าตัวจะเฉิดฉายเพียงใด แต่เขากลับไปมีปัญหากับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งอยู่ในตำแหน่งผู้จัดการทีม ทำให้ซลาตันต้องอำลา แฟน ๆ ที่คัมป์นู ย้ายกลับอิตาลี แต่เปลี่ยนสีเสื้อมาอยู่กับ ปีศาจแดง-ดำ เอซี มิลาน ด้วยสัญญายืมตัว

หลังจากนั้นไม่นาน เอซี มิลาน ซื้อตัวของเขามาอยู่กับทีม 2011 และเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ซัดไป 28 ประตูจากการลง สนาม 32 นัด พร้อมพาทีมคว้าถ้วย สคูเด็ตโต้ มาได้สำเร็จ เส้นทางค้าแข้งของ ซลาตันดูจะย้ายทีมบ่อย แต่ซลาตันก็คือซลาตัน เขาไม่ได้นักเตะเจ้าปัญหา ถึงจะย้ายทีมบ่อยแต่ก็ ประสบความสำเร็จอยู่ทุกที ปี 2012 ย้ายมาอยู่กับทีมมหาเศรษฐีอย่าง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ใน ลีกเมืองน้ำหอม แล้วก็คว้ารางวัล ดาวซัลโว ด้วยการตะบันไป 30 ประตู

– 2014 คว้ารางวัลดาวซัลโวของลีกอีกครั้งด้วยการกดไป 26 ประตูแม้ทีมของเขาจะไม่ได้แชมป์ แต่ผลงานส่วนตัว ของเขาก็อัศจรรย์พอ ที่จะได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของลีกเอิง ประจำฤดูกาลนั้น
– 2015 คว้าแชมป์บอลถ้วย กับต้นสังกัด หลังเหมา 2 ประตูในนัดชิงชนะเลิศที่ เอาชนะ บาสเตียไปด้วยสกอร์ 4 ประตูต่อ0 หลังจากโชว์เพลงแข้งอยู่ฝรั่งเศส 4 ฤดูกาล ซลาตันย้ายมาเป็น พลพรรคปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2016 แล้วก็พาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ถ้วยเก่าแก่ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ และ ถ้วยรองของยุโรป อย่าง ยูโรป้า ลีกอีกด้วย

– 2018 เหมือนจะเข้าสู่ช่วงท้ายของชีวิตค้าแข้งของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช แล้ว เมื่อต้องย้ายไปอยู่กับ แอลเอ แกแล็กซี่ ใน เมเจอร์ลีก ซ้อคเกอร์ แต่ก็ไปสร้างความฮือฮา ให้เหล่าแฟนบอลชาวสหรัฐได้ชมความมหัศจรรย์ของเขาอยู่เรื่อย ๆ
– 2019 บร๊ะเจ้าเกิดใหม่ ในวัยย่าง 39 ปี เขากลับมาอยู่กับ ปีศาจแดง-ดำ เอซีมิลานอีกครั้ง และเป็นกำลังหลักของทีม ในการที่จะสร้างความยิ่งใหญ่ให้กับสโมสร พร้อมกับความคาดหวังต่าง ๆ ว่า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จะเป็นผู้ที่ ล้างอาถรรพ์ เสื้อหมายเลข 9 ที่กองหน้าหลายคนเอาชื่อมาทิ้งไว้กับเบอร์เสื้อเบอร์นี้อยู่หลายราย

ประวัตินักฟุตบอลคนอื่น : ประวัตินักฟุตบอล
Facebook Fanpage : SoccerSociety
อ่านข่าวฟุตบอล : เว็บข่าวบอล