ประวัติผู้จัดการทีม โธมัส ทูเคิ่ล

ประวัติผู้จัดการทีม โธมัส ทูเคิ่ลหากสังเกตดูให้ดีเราจะพบว่ากุนซือในสโมสรฟุตบอลชื่อดังโดยเฉพาะในยุโรปส่วนใหญ่แล้วมักจะเคยเป็นนักเตะดาวดังมาก่อน เนื่องจากพวกเขาจะได้สัมผัสกับประสบการณ์จริงในการลงสนามแถมยังสามารถมองภาพรวมในการแข่งขันออกได้อย่างง่ายดายอีกด้วย แต่ก็มีกุนซือบางคนเช่นเดียวกันที่ไต่เต้ามาจากการเป็นนักเตะที่ไม่ประสบความสำเร็จแต่ก็สามารถขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมระดับตำนานได้ หนึ่งในนั้นก็คือโธมัส ทูเคิ่ลผู้จัดการผู้ภักดีของเชลซี

ถึงแม้ว่าจะเผชิญปัญหามากแค่ไหนก็ไม่เคยทิ้งทีมไปต่อให้มีสโมสรชื่อดังต้องการจะดึงตัวมากแค่ไหนก็ตาม เขาพูดนี้เกิดเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมปี 1973 ในเมืองคลุมบัค ประเทศเยอรมนี ส่วนสูงกว่า 190 เซนติเมตร หน่วยก้านดี แต่ดันไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพฟุตบอลสักเท่าไหร่ เขาเคยเล่นฟุตบอลให้กับ 2 ทีมในลีกเยอรมันซึ่งเป็นลีกล่างสุดอย่างคลิกเกอร์ สตุตการ์ท ในช่วงปี 1992 ถึง 1994 และอูล์มในปี 1994 ถึง 1998

หลังจากได้รับบาดเจ็บเรื้อรังบริเวณกระดูกอ่อนเข่าเขาก็ตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นนักเตะของตัวเองด้วยวัยเพียงแค่ 25 ปีเท่านั้น แต่เขายังไม่ล้มเลิกการทำอาชีพอยู่ในวงการฟุตบอลแต่อย่างใด โธมัส ทูเคิ่ลได้ผันตัวเองมาเป็นกุนซือโดยเริ่มต้นจากการคุมทีมเยาวชนในสตุตการ์ท เจ้าตัวทั้งฝึกฝนตัวเองเกี่ยวกับการเป็นกุนซือและกลยุทธ์เกี่ยวกับฟุตบอลอย่างจริงจัง

หลังจากนั้นก็ได้รับโอกาสในการเป็นกุนซือใหญ่ประจำปีไมนซ์ในเยอรมนี ก้าวเข้าสู่ปี 2014 เขาก็ได้ประสบความสำเร็จในฐานะกุนซืออีกครั้งด้วยการได้รับตำแหน่งในสโมสรใหญ่อย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในฤดูกาล 2016-2017 และ พา ดอร์ทมุน ประสบความสำเร็จโดยการคว้าแชมป์ เดเอ็ฟเบ โพคาล ในปีนั้น พร้อมทั้งปั้นดาวรุ่งขึ้นมาใหม่ อย่างเช่น จาดอน ซานโช่ ที่มีผลงานโดดเด่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา

หลังจากนั้นก็ได้ไปคุมทีมมหาเศรษฐีอย่างปารีส แซงต์-แชร์กแมงในปี 2018 เนื่องจากสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยการพา เปแอสเช ยอดทีมในแดนน้ำหอม คว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้ง แชมป์ ลีกเอิง ฤดูกาล 2018-2019 และ ถ้วยฟุตบอลลีกคัพ ของประเทศฝรั่งเศส เป็นการย้ายมาคุมทีมยอดเยี่ยม

เนื่องจากสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเขาจึงได้รับโอกาสในการคุมทีมที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกทีมหนึ่งนั่นก็คือเชลซีมาจนถึงในปัจจุบัน ผลงานที่ทำให้เขาแจ้งเกิดในฐานะของกุนซือเกิดขึ้นในปี 2009 หลังจากที่เขาสามารถทาสโมสรไมนซ์รอดจากการตกชั้นได้สำเร็จแถมยังพาทีมทะยานขึ้นสู่อันดับ 9 ของตารางได้อีกต่างหาก ในฤดูกาล 2010 เขาก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างต่อเนื่องด้วยการพาทีมคว้าชัยชนะถึง 7 ครั้งติดต่อกัน แถมยังสามารถเอาชนะทีมใหญ่อย่างบาเยิร์น มิวนิคได้สำเร็จอีกด้วยเขาจึงได้รับการจับตามองเป็นพิเศษ หลังจากนั้นเขาก็กลายมาเป็นตำนานในปี 2019 ที่มีการพัฒนาและปรับปรุงฝีมือจนสามารถพาสโมสรต้นสังกัดในช่วงเวลานั้นคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จอย่างงดงาม