แมนเชสเตอร์สีแดง แมนยูฟอร์มเด่นเกมรับแน่นเกมรุกเฉียบบุกอัดแมนซิตี้ 2-0
แมนเชสเตอร์สีแดง แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมานอกจากจะเป็นบิ๊กแมตช์ของหัวตารางแล้วยังเป็นการพบกันของสองทีมที่กำลังมีสถิติที่สวยงามเป็นของตัวดังนั้นในเกมนี้จะมีหนึ่งทีมที่สถิติจะต้องหยุดลง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่มีสถิติสุดยอดชนะติดต่อกันมา 21 เกม ส่วนฝั่งผู้มาเยือนอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดถือครองสถิติไม่แพ้เกมนอกบ้านมาแล้ว 21 เกม
สำหรับตัวผู้เล่นฝั่งแมนซิตี้ดูจะสมบูรณ์มากกว่าหลังจากได้ เควิน เดอบรอยน์ กลับมาเป็นกำลังหลักในแดนกลาง ทำให้สภาพโดยรวมของทีมถือว่ากำลังอยู่ในช่วงนี้สมบูรณ์ที่สุด ส่วนฝั่งของผู้มาเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ยังไม่มีสิทธิ์ใช้ พอล ป๊อกบา รวมถึงเกมนี้ ไม่มี ดาวิด เดเคอา จึงจำเป็นต้องใช้ ดีน เฮนเดอร์สัน ลงเฝ้าเสาเป็น 11 ตัวจริง
เริ่มเกยยังไม่ครบ 1 นาทีดี ฝั่งผู้มาเยือนที่ได้เป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นก็วางบอลยาวเข้าโจมตีทันที ก่อนจะเป็น อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่ลากบอลตะลุยเข้ากรอบเขตโทษก่อนจะโดนผู้เล่นแมนซิตี้หลายคนวิ่งเข้ามารุมสกัดบอลก่อนจะล้มลงและผู้ตัดสินให้เป็นลูกโทษที่จุดโทษทันที แล้วก็เป็น บรูโน่ แฟร์นันส์ จอมทัพตัวเก่งที่สังหารจุดโทษเข้าประตูไปไม่พลาด ให้ผู้มาเยือนขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 2 เท่านั้น
หลังจากนั้นเจ้าบ้านแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่ทันที แต่ยังไม่มีจังหวะได้สับไก ก่อนจะมาได้จังหวะยิงเน้น ๆ ของ ซินเชนโก้ ที่ได้ซัดเต็มข้อด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งแรงตรงกรอบ แต่ยังไม่หนีตัว ดีน เฮนเดอร์สัน ยังปัดทิ้งออกมาได้ หลังจากนั้นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พยายามสร้างโอกาสในการเข้าทำเรื่อย ๆ และเกือบจะได้ประตูตีเสมอในช่วงท้ายครึ่งแรก จากการขึ้นเกมริมเส้นของ ริยาด มาห์เรซ รับบอลจากตรงกลางก่อนจะกึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาสอง แต่ การ์เบรียล เฆซุส เข้าชาร์ตไม่ทันบอลผ่านหน้าปากประตูหลุดหลังออกไป ทำให้จบครึ่งเวลาแรก แมนเชสเตอร์ซิตี้ ยังตามหลังอยู่ 0-1
เริ่มเกมครึ่งหลังมายังเป็นเกมบุกของฝั่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่พยายามจะเจาะเข้าพื้นที่สุดท้าย ก่อนจะมาได้ลุ้นจากลูกยิงไกลของ ชูเอา คันเซโล่ ที่ได้วิ่งมายิงด้วยข้างเท้าด้านในเน้น ๆ บอลพุ่งไปชนคานออกไปอย่างน่าเสียดายตั้งแต่นาทีที่ 47
หลังจากนั้นรูปเกมที่เหมือนแมนซิตี้บุกอยู่ฝั่งเดียวกลับมาเสียประตูที่ 2 จากจังหวะที่ลุค ชอว์ พาบอลลุยขึ้นมาตั้งแต่บริเวณกลางสนามก่อนจะส่งบอลต่อให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ก่อนที่ แรชฟอร์ด จะคืนให้ ลุค ชอว์ ได้แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนจะซัดด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งผ่านผู้เล่นในแนวรับของแมนซิตี้ 3-4 ของพุ่งเรียดเสียบเสาไกลเข้าไปแบบนี้ เอแดร์ซอน หมดสิทธิ์ป้องกันทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่พึ่งจะได้โอกาสจบครั้งแรกในครึ่งหลังหนีห่างไปเป็น 2-0
หลังจากโดนประตูที่สองรูปเกมก็ยังเป็นฝั่งเจ้าบ้านที่เปิดเกมรุกเข้าใส่ผู้มาเยือนเหมือนเดิม แต่วันนี้เกมรุกของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่มีจังหวะอันตราย หรือ ลูกยิงที่ต้องให้ ดีน เฮนเดอร์ สัน ออกแรงป้องกันมากนัก กลับเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่บุกน้อยแต่ทำให้หวาดเสียวมากกว่าเกือบจะได้ประตูที่ 3 จากจังหวะพาบอลลุยของ สก็อต แม็คโทมิเนย์ ก่อนบอลจะไปเข้าทางออกมาร์ซิยาลได้หลุดเข้าไปดวลกับ เอแดร์ซอน แต่มาร์กซิยาลก็ยังยิงได้ไม่ดี ทำให้ยังไม่ผ่านมือผู้รักษาประตูชาวบราซิล
หลังจากนั้นเกมส่วนใหญ่ก็เป็นการบุกของฝั่งเจ้าบ้านแต่ไม่สามารถทำประตูได้ ทำให้จบเกมการแข่งขัน 90 นาที แมนเชสเตอร์ซิตี้ ต้องหยุดสถิติชนะรวดไว้ที่ 21 เกม ด้วยการแพ้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 ส่วนฝั่งผู้มาเยือนของเดินหน้าสร้างสถิติต่อไปกับการไม่แพ้ใครในยามที่ออกไปเยือนเป็นเกมที่ 22 ติดต่อกัน
เกมนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้สร้างโอกาสยิงได้ถึง 18 ครั้งแต่ยิงตรงกรอบไปเพียง 6 ครั้ง ซึ่ง 6 ครั้งที่ยิงเข้ากรอบก็เป็นการยิงตรงตัวของ ดีน เฮนเดอร์สัน ซะส่วนใหญ่ และยังเป็นเกมแรกในรอบมากกว่า 20 เกมที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ไม่สามารถทำประตูคู่แข่งได้ ทำให้ระยะห่างของคะแนนระหว่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ที่เป็นจ่าฝูงกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เป็นรองจ่าฝูงลดลงเหลือ 11 แต้ม และเหลือเกมให้ลงแข่งขันอีก 10 เกม
ติดตามข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ : ข่าวฟุตบอลออนไลน์