อิตาลีคว้าแชมป์ ทัพอัซซูรีแม่นกว่าเฉือนชนะอังกฤษคว้าแชมป์ยูโร 2020
อิตาลีคว้าแชมป์ เป็นทีมชาติอิตาลีที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2020 ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่หลังเอาชนะทีมชาติอังกฤษได้จากกการดวลลูกโทษที่จุดโทษหลังจากที่จบเกมการแข่งขัน 120 นาทีด้วยสกอร์ที่เสมอกันอยู่ 1-1
เกมฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 นัดชิงชนะเลิศ เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่างทีมชาติอังกฤษเจ้าภาพ ซึ่งผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโรเป็นครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ของชาติ พบกับ ทีมชาติอิตาลีที่เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรไปแล้ว 1 หนเมื่อปี 1968 ที่อิตาลีเป็นเจ้าภาพ
เกมเริ่มขึ้นเป็นฝั่งทีมชาติอังกฤษ ที่ได้ประตูขึ้นก่อนอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่นาทีที่ 2 จากจังหวะขึ้นเกมรุกทางฝั่งขวา ก่อนจะเป็นทริปเปียร์ ที่ได้เปิดบอลข้ามไปจนถึงลุค ชอว์ ได้วอลเล่ย์ที่เสาสอง แบบเต็มข้อบอลพุ่งผ่านมือ ดอนนารุมมา เข้าไปตุงตาข่ายให้แฟนบอล ทัพสิงโตคำรามได้เฮสนั่นสนามเวมบลี่ย์
หลังจากได้ประตูขึ้นนำรูปเกมของอังกฤษตกเป็นรองอิตาลี อย่างชัดเจนตั้งแต่ช่วงต้นเกม จนกระทั่งจบครึ่งเวลาแรก ซึ่งอิตาลียังมีปัญหาในการ เจาะเข้าพื้นที่สุดท้าย ที่แทบจะไม่สามารถหาโอกาสเข้าไปลุ้นประตูได้เลย ทำให้จบครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์ที่เสมอกันอยู้่ที่สกอร์ 0-0
ครึ่งหลังยิ่งเป็นอิตาลีที่ได้ครองบอลบุกอยู่ฝ่ายเดียว กระทั่งนาทีที่ 67 เป็น โบนุชชี่ ปราการหลังตัวเก่ง ยิงประตูตีเสมอให้กับอิตาลีได้สำเร็จ จากจังหวะเล่นลูกเตะมุมก่อนจะเป็นโบนุชชี่ ที่ได้ซ้ำจ่อ ๆ ลูกโหม่งของ แวรัตติ เข้าประตูไปให้ อิตาลีกลับคืนสู่เกม และยังครองบอลบุกเข้าใส่ ทำให้อังกฤษต้องลงเล่นไปเล่นเกมรับแล้วโต้ แต่ก็ทำได้หวาดเสียวอยู่หลายหนเช่นเดียวกัน
เกมจบ 90 นาทีด้วยสกอร์เสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที ซึ่งเป็น 30 นาทีทั้งสองทีมเล่นกันอย่างระมัดระวัง อิตาลีที่ครองบอลได้เหนือกว่าก็ไม่กล้าที่จะเปิดบอลขึ้นแดนหน้าหรือจ่ายบอลในจังหวะได้เสีย เพราะอาจจะได้ไม่คุ้มเสียทำให้เกมนี้ต้องติดสินด้วยการดวลลูกโทษที่จุดโทษ
ซึ่งการดวลลูกโทษก็เป็นฝั่งอิตาลีที่ทำได้ดีกว่า ทั้งในการยิงและการเซฟของดอนนารุมมา ที่สามารถเซฟลูกยิงของผู้เล่นทีมชาติอังกฤษได้ถึง 3 คนติดทำให้ทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรในรอบ 56 ปีได้สำเร็จ
ซึ่งหลังจบเกม เราได้เห็นภาพความสวยงาม ในวงการฟุตบอล ที่เหล่าแข้งอวุโส ได้พากันเข้าสวมกอด เหล่าผู้เล่นอายุน้อย ที่ต้องรับหน้าที่สังหารจุดโทษ ซึ่งคนที่ดูจะผิดหวังในตัวเองมากที่สุดน่าจะเป็น ซาก้า ดาวรุ่งวัย 19 ปีที่ต้องแบกรับความกดดันของแฟนบอล ก่อนจะยิงจุดโทษไปติดเซฟของดอนนารุมมา ซึ่งเป็นการยิงคนสุดท้าย ทำให้อิตาลีเอาชนะอังกฤษได้