เกมดราม่าในฟุตบอลโลก 2022 อีกเกม ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่าง โมร็อกโก ทีมที่เสียประตูน้อยที่สุด ที่พึ่งจะเอาชนะการดวลจุดโทษ สเปน มาได้ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่ต้องมาพบกับบิ๊กทีมอย่าง โปรตุเกส ที่ถล่มเอาชนะสวิตฯ มาอย่างขาดลอย ทำให้เกมนี้ไปทางโปรตุเกส

ที่สนาม อัล ธูมาม่า สเตเดี้ยม เริ่มเกมมา 4 นาที โปรตุเกส เกือบเฮก่อนเลย เมื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดฟรีคิกมาให้ ชูเอา เฟลิกซ์ ได้ล้มตัวโหม่ง แต่ โบโน่ ก็ยังพุ่งปัดออกหลังได้ทัน โปรตุเกส บุกอย่างต่อเนื่องและเกือบได้ประตูหลายครั้ง จนมาถึงนาทีที่ 31 โปรตุเกส มีลุ้นชัดเจน เมื่อบอลถูกโหม่งสกัดมาเข้าทาง ชูเอา เฟลิกซ์ จับแล้ววอลเลย์สวนด้วยขวาหน้าเขตโทษ ลูกไปแฉลบ เอล ยามิก ทำให้ โบโน่ ล้มตัวผิดทางไปแล้ว ทว่ายังดีที่บอลมันสูงข้ามคานออกไปนิดเดียว

และแล้วในนาทีที่ 42 กลายเป็น โมร็อกโก ที่ออกนำ 1-0 เมื่อ ยาเฮีย อัตเตียต-อัลลาห์ ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วเออร์ลี่ครอสโด่งเข้าเขตโทษ ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ เข้าถึงบอลก่อนเทกตัวอย่างสูงโหม่งตุงตาข่ายไปเลย โดยที่ ดีโอโก้ คอสต้า นั้นออกมาจั่วลมเต็มๆ จากนั้นทั้งสองทีมสวนกันไปมาแต่สุดท้ายยังไม่มีสกอร์เพิ่ม จบครึ่งแรก โมร็อกโกออกนำโปรตุเกสอยู่ 1-0

เริ่มต้นครึ่งหลังมานาทีที่ 51 เป็นฝั่งของโปรตุเกสต้องแก้เกม ส่ง ชูเอา กานเซโล่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงมาแทน ราฟาเอล เกร์เรยโร่ และ รูเบน เนเวส จากนั้นทางโปรตุเกสบุกใส่โมร็อกโกอย่างหนักแต่ได้แค่เชี่ยวไปมา ในนาทีที 93 โมร็อกโกต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน วาลิด เชดดิร่า โดนเหลืองที่ 2 โดนไล่ออกจากสนามไป แต่สุดท้ายโปรตุเกสก็ทำอะไรโมร็อกโกไม่ได้ จบเกม โมร็อกโกพลิกล็อกเอาชนะโปรตุเกสไปได้  1-0 กลายเป็นชาติแรกจากแอฟริกาที่เข้าถึงรอบตัดเชือกฟุตบอลโลก