เกมในครึ่งแรก อัตเลติโก้ฯเป็นฝ่ายครองเกม พร้อมทั้งมีโอกาสยิงมากกว่า 9:6 ครั้ง พร้อมทั้งมีโอกาสดีที่จะออกนำถึง 2 หน จากจังหวะยิงชนเสาของ เกโน่ ในนาทีที่ 18 และยิงชนคานของ ฮัล์ค ในนาทีที่ 25
ครึ่งหลังนาที 46 อัตเลติโก้ฯส่ง โฮเซ่ โรดอลโฟ ลงมาแทน อเดเมียร์ ขณะที่ พัลไมรัสยังใช้ผู้เล่นชุดเดิม ผ่านไปถึงนาทีที่ 51 กุสตาโว สการ์ปา จ่ายให้ มูริโล่ ปาอิม ใส่สกอร์ให้พัลไมรัส ขยับออกนำ 1-0

หลังจากนั้น อัตเลติโก้ฯขึงเกมบุกอย่างหนัก แต่หาจังหวะจบได้ค่อนข้างน้อย ผ่านไปถึงนาที 76 พวกเขามีโอกาสยิง 4 ครั้ง จาก ฮัล์ค (2) อลัน คาร์เดค และ กาโน่ แต่ยังไม่มีประตูตีเสมอ ต้องแก้เกมอีก 2 ตำแหน่ง โอตาวิโอ้ กับ คริสเตียน ปาวอน ถูกส่งลงมาแทน อัลลัน กับ กาโน่
หลังแก้เกม อัตเลติโก้ฯยังเป็นฝ่ายขึงเกมอย่างต่อเนื่อง พวกเขามีโอกาสยิง 3 ครั้งจาก อเดเมียร์ (2) และ ฮัล์ค แต่ยังไม่ผ่านมือ มาร์เซโล่ ลอมบา จบเกม 90 นาที พัลไมรัสเป็นฝ่ายเข้าวิน 1-0

พัลไมรัสยึดจ่าฝูง นำห่าง 9 แต้ม หลังผ่าน 28 นัด พัลไมรัส เก็บเพิ่มเป็น 60 คะแนน ยึดจ่าฝูงตามเดิม นำหน้าอันดับ 2 ฟลูมิเนนเซ่ 9 คะแนน โดยเกมนัดที่ 29 ลูกทีมของ อาเบล แฟไรร่า มีคิวไปเยือน โบตาโฟโก้ ในวันที่ 4 ตุลาคม เกมนี้ พัลไมรัส ครองบอล 32% พร้อมโอกาสยิง 10 ครั้ง โดยที่ มูริโล่ ปาอิม เจ้าของประตูชัย 1-0 เคลียร์บอล 6 ครั้ง ตัดบอล 4 ครั้ง ผลงานดีที่สุดในสนาม (8.5 คะแนน) ตามด้วย ฮัวคิน ปิเกเรซ ตัดบอล 4 ครั้ง เลี้ยงผ่าน 3 ครั้ง (8.0 คะแนน) และ มาร์กอส โรชา สร้างโอกาส 2 ครั้ง แท็คเกิล 5 ครั้ง (7.8 คะแนน)

ทางฝั่ง อัตเลติโก้ มิไนโร่ มีโอกาสยิง 16 ครั้ง จากการครองบอล 68% โดยที่ มาเรียโน่ ชนะลูกกลางอากาศ 4 ครั้ง สร้างโอกาส 4 ครั้ง จ่ายบอลแม่น 63/73 ครั้ง ผลงานดีที่สุดในทีม (7.6 คะแนน) ตามด้วย เอแวร์สัน เจ้าของ 2 เซฟ ตัดบอล 1 ครั้ง (7.1 คะแนน) และ ฮัล์ค โอกาสยิง 5 ครั้ง เลี้ยงผ่าน 5 ครั้ง (7.1 คะแนน) หลังผ่าน 28 นัด อัตเลติโก้ มิไนโร่ เก็บได้ 40 คะแนน อยู่อันดับ 7 ตามหลังท็อปโฟร์ 7 คะแนน โดยเกมที่ 29 มีคิวเปิดบ้านรับมือ ฟลูมิเนนเซ่ ในวันที่ 2 ตุลาคม