รังนิกเตรียมปรับบทบาท เป็นที่ปรึกษาปีศาจแดง

รังนิกเตรียมปรับบทบาท เป็นที่ปรึกษาปีศาจแดงกุนซือฝีมือดีทั่วโลกมีเป็นจำนวนมากไม่น้อยกว่านักฟุตบอลแต่อย่างใด แต่กุนซือที่เป็นถึงระดับตำนานในการคิดค้นกลยุทธ์ใหม่ๆ ในการเล่นฟุตบอลไม่ได้มีทั่วไป
หนึ่งในนั้นก็คือกุนซือขัดตาทัพประจำแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคนปัจจุบันอย่างราล์ฟ รังนิก ต้นฉบับกลยุทธ์ Gegenpressing เขาเป็นคนที่หลังจากมีการเปิดเผยออกมาจากแมนยูว่าจะมีการดึงตัวเข้ามาร่วมทีมก็ทำเอากุนซือทีมใหญ่ประจำพรีเมียร์ลีกหลายคนรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ไปตามๆ กันไม่ว่าจะเป็นเป๊ป กวาร์ดิโอล่าจากแมนซิตี้หรือแม้แต่เจอร์เกน คลอปป์จากลิเวอร์พูลก็ตาม ในช่วงเวลานั้นหลายคนจึงค่อนข้างคาดหวังว่าเขาจะสามารถทำให้แมนยูพ้นจากภาวะวิกฤตที่เป็นมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในช่วงต้นฤดูกาลได้สักที แต่มันกลับกลายเป็นว่าเขาไม่สามารถช่วยกู้วิกฤตได้แต่อย่างใด
นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างกุนซือหรือแม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างนักเตะเองก็ตามดูเหมือนว่าจะย่ำแย่ลงไปอีกต่างหาก อย่างไรก็ตามถือว่าแมนยูยังคงตัดสินใจถูกอยู่บ้างที่ให้เขาเป็นเพียงแค่กุนซือขัดตาทัพจนถึงจบฤดูกาลนี้เท่านั้น หลังจากนี้เขาจะต้องทำหน้าที่ที่เหมาะสมกว่านั้นก็คือการเป็นที่ปรึกษาต่ออีกเป็นระยะเวลา 2 ปี หลายคนก็เริ่มคาดหวังอีกเช่นเดียวกันว่าการเป็นที่ปรึกษาของเขานั้นจะช่วยให้ทีมพัฒนามากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเพราะเขาเป็นกูรูด้านฟุตบอลที่มีทั้งความรู้และประสบการณ์ไม่แพ้ใคร
ถึงอย่างนั้นล่าสุดสื่อชื่อดังประจำเกาะอังกฤษอย่าง Daily Mail ก็ได้มีการออกมาแฉว่าความจริงแล้วราล์ฟ รังนิกจะทำงานในฐานะของที่ปรึกษาประจำแมนยูเพียงแค่เดือนละ 6 วันเท่านั้น แถมในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีการปรึกษาเกี่ยวกับกุนซือในอนาคตที่จะดูแลแมนยูแบบถาวรแต่อย่างใด
ดังนั้นเท่ากับว่าเขาจะไม่มีส่วนร่วมในการหากุนซือคนใหม่ประจำทีมเนื่องจากแมนยูต้องหากุนซือคนใหม่ให้ทันก่อนที่เขาจะลงจากเก้าอี้แต่เขายังไม่ได้มีการพูดคุยกับทีมในการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการหากุนซือคนใหม่แต่อย่างใด นอกจากนี้แม้ว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งที่ปรึกษาเป็นระยะเวลา 2 ปีตามสัญญา แต่หากเขาทำงานเพียงแค่เดือนละ 6 วันเท่านั้นเท่ากับว่าเขาจะเป็นที่ปรึกษาให้กับแมนยูเพียงแค่ 144 วันเท่านั้น
นอกจากนี้ Daily Mail ยังออกมาเปิดเผยเพิ่มเติมอีกด้วยว่าราล์ฟ รังนิกในตำแหน่งที่ปรึกษาขึ้นอยู่กับว่าใครที่จะได้เป็นกุนซือคนใหม่ของทีมเช่นเดียวกัน ในขณะเดียวกันเองยังต้องขึ้นอยู่กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการกีฬา ผู้อำนวยการด้านการเทคนิค ผู้อำนวยการด้านการต่อรอง จากข้อมูลที่ได้มาเราอาจจะต้องพิจารณากันอีกทีว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ที่แมนยูจ้างเขามาเป็นที่ปรึกษาด้วยค่าตัวไม่น้อยเลยทีเดียว
ข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติม : เว็บข่าวฟุตบอลออนไลน์
FACEBOOK FANPAGE : SoccerSociety