ริโอใส่ยับ นักเตะแมนยูไม่กล้าตำหนิเพื่อน

ริโอใส่ยับ นักเตะแมนยูไม่กล้าตำหนิเพื่อน แม้ว่าการเป็นนักกีฬาก็จะเป็นอาชีพหนึ่งที่สามารถทำรายได้ให้กับคนที่ทำอาชีพนั้น แต่ว่าอาชีพนี้มีความแตกต่างจากอาชีพพนักงานออฟฟิศหรือควรทำงานเอกสารทั่วไปชอบพวกเขาต้องมีความเป็นนักกีฬา นั่นก็คือขยันอดทนหมั่นฝึกซ้อม หากเล่นเกมเป็นทีมจะต้องมีการเปิดอกพูดคุยกันเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องพัฒนาและสิ่งที่ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่กับนักเตะในสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแต่อย่างใด
หลายคนมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับแมนยูตอนนี้ที่ฟอร์มย่ำแย่เกิดจากกุนซือชาวเยอรมันอย่างราล์ฟ รังนิกที่ไม่สามารถคุมทีมได้ดีพอ กลยุทธ์ของเขาไม่เข้ากับสโมสรแมนยูเลยแม้แต่น้อย แต่ในความจริงแล้วปัญหานี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะแม้แต่อดีตกองหลังมากฝีมือจากแมนยูอย่างริโอ เฟอร์ดินานด์ได้มีการออกมาตำหนินักเตะแมนยูชุดนี้ที่ไม่มีใครกล้าตำหนิเพื่อนร่วมทีมแบบตรงๆ เลยแม้แต่คนเดียว และมันก็ทำให้ผลงานของแมนยูในช่วงหลังมานี้ย่ำแย่จนถึงขีดสุด
การแข่งขันให้หลังหลายนัดที่ผ่านมาของแมนยูเห็นได้ชัดว่าฟอร์มของพวกเขาไม่คงเส้นคงวาอย่างที่ควรจะเป็น แล้วล่าสุดพวกเขาก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ซิตี้ด้วยคะแนนกว่า 1 ประตูต่อ 4 ทำให้โอกาสที่พวกเขาจะสามารถจบการแข่งขันพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ไปได้ด้วยการคว้าอันดับท็อปโฟร์ได้สำเร็จยิ่งกลายเป็นเรื่องเงินล้านมากยิ่งขึ้นไปอีก
ริโอ เฟอร์ดินานด์ได้กล่าวว่าจากมุมมองของคนนอกดูเหมือนพวกเขาอยากเป็นแค่เพื่อนกัน ไม่มีใครที่อยากจะทำให้นักเตะคนอื่นรู้สึกโกรธเคืองจากการพูดตำหนิแบบตรงไปตรงมาแม้แต่คนเดียว มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขากำลังทำงานอยู่ในออฟฟิศ แต่ละคนต่างทำนิสัยดีต่อกันและกันและไม่มีใครกล้าพูดกับอีกฝ่ายว่าความจริงแล้วพวกเขาไม่ชอบกันเลยแม้แต่น้อย
การที่สโมสรจะคว้าชัยชนะได้เราต้องเรียกอีกฝ่ายมาคุยและบอกไปตรงๆ ว่าพวกเขามีตรงไหนที่ต้องปรับปรุงบ้าง และบอกให้อีกฝ่ายจัดการตัวเองให้เรียบร้อย คุณไม่จำเป็นที่จะต้องพูดในแง่ของความก้าวร้าวแต่สามารถตําหนิติเตียนได้ผ่านบทสนทนาแบบปกติ
เขาไม่เห็นว่านักเตะเหล่านี้จะมีปฏิกิริยาที่ดีออกมาเลยแม้แต่น้อย ภาษากายที่ออกมาแย่มาก พวกเขาเดินแบบเซื่องซึม ทำเหมือนคนทั้งโลกกำลังต่อต้านพวกเขา ดูแล้วไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่ตอนนี้พวกเขากำลังเล่นให้กับแมนยู นอกจากนี้ยังเป็นการแข่งขันดาร์บี้แมตช์อีกต่างหาก
พวกเขาจะรู้หรือไม่ว่าแฟนคลับบนอัฒจันทร์พร้อมจ่ายเงินไม่ว่าจะมากแค่ไหนก็ตามเพื่อที่ตัวเองจะได้รับโอกาสในการลงเล่นในสนาม แต่นักเตะกลับเดินไปเดินมาและคิดว่าพอวันอาทิตย์ตนเองน่าจะทำได้ดีกว่านี้ มันคือความรู้สึกที่เขาได้รับจากนักเตะบางคน เราได้เห็นว่ามันมีการเปลี่ยนกุนซือแล้วหลายต่อหลายคนดังนั้นปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่ตัวกุนซือแต่อย่างใด
ข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติม : ข่าวฟุตบอลล่าสุด
FACEBOOK FANPAGE : SoccerSociety