ราล์ฟ รังนิค กุนซือ ปีศาจแดงพาทีมไม่ชนะมา 3 นัดในทุกรายการ โดยเกมนี้มีการปรัพทัพหลายตำแหน่ง เลือกใช้ เจสซี่ ลินการ์ด ออกสตาร์ตตัวจริง เช่นเดียวกับ แอนโธนี่ อีแลงก้า โดยมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยืนเป็นหัวหอกล่าตาข่าย ด้าน ดีน สมิธ กุนซือ นกขมิ้น พาทีมเก็บ 4 แต้มจาก 2 นัดล่าสุดและไม่เสียประตูอีกด้วย โดยเกมนี้ยังฝากความหวังไว้ที่ ตีมู ปุ๊กกี้ หัวหอกตัวเป้า 

     ครึ่งแรกเปิดฉากมาเพียง 2 นาที แมนยู ได้โอกาสทักทายก่อนจากจังหวะที่ เจดอน ซานโช่ กระชากเข้าเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิงมุมแคบบอลยังตรงตัว ทิม ครูล หลังจากนั้นนาทีถัดมา นอริช เกือบจะทำช็อกเจ้าถิ่นจากจังหวะสวนกลับแล้วเป็น ปิแอร์-ลี เมลู แทงทะลุช่องให้ ตีมู ปุ๊กกี้ หลุดเดี่ยวแต่ยิงไปเซฟของ เด เคอา ปัดทิ้งเอาไว้ได้

   ทั้งสองทีมเปิดหน้าแลกกันสนุก จนกระทั่งนาทีที่ 7 แมนยู ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ แอนโธนี่ อีแลงก้า ไปฉกบอลได้จาก เบน กิ๊บสัน แล้วไหลถวายพานให้ โรนัลโด้ ได้ซัดโล่งๆหน้าปากประตูส่งบอลตุงตาข่าย 

    แมนยู ยังบุกใส่เป็นพายุ นาทีที่ 10 เกือบได้ลูกสองเมื่อ อีแลงก้า แตะบอลย้อนคืนให้ เจสซี่ ลินการ์ด ได้วิ่งมาแปเน้นๆด้วยขวาบอลไปแฉลบแนวรับ นอริช หลุดเสาไกลออกไปนิดเดียว

    แต่กระนั้นจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวา บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดมาเข้าหัว โรนัลโด้ ขึ้นโขเกเน้นๆส่งบอลตุงตาข่ายให้ แมนยู นำ นอริช 2-0 ในนาทีที่ 32 อย่างไรก็ตามช่วงทดเวลานาที 45+1 นอริช ตามตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ ตีมู ตีปุ๊กกี้ หลุดเข้าเขตโทษแล้วเปิดไปที่เสาไกลให้ คีแรน โดเวลล์ ได้โหม่งโล่งๆคนเดียวเข้าไปไม่เหลือ ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรก แมนยู ขึ้นนำ นอริช 2-0 

     ครึ่งหลังเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 52 กลายเป็น นอริช ที่ตามตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ คีแรน โดเวลล์ วางบอลยาวให้ ตีมู ปุ๊กกี้ หลุดเดี่ยวไปยิงผ่านมือ เด เคอา เข้าประตูไป

     นาทีที่ 76 แมนยู จะแซงนำอีกหนเป็น 3-2 จากจังหวะซัดฟรีคิกของ โรนัลโด้ บอลทะลุกำแพงส่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม พร้อมเป็นแฮตทริกของดาวเตะชาวโปรตุเกสในเกมนี้ 

    เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะ นอริช 3-2 ช่วยให้ “ปีศาจแดง” เก็บเพิ่มเป็น 54 แต้มขยับแซง อาร์เซน่อล ขึ้นไปรั้งที่ 5 ของตาราง และมีแต้มตาม สเปอร์ส อันดับ 4 อยู่ 3 คะแนน ก่อนบู๊ศึกแดงเดือดนัดหน้า