“มันยากมาก ๆ ที่เราจะล่วงรู้ได้ว่า นักเตะอายุ 15-16 ปีจะประสบความสำเร็จในอนาคตหรือไม่อย่างไร” “ณ ตอนนั้นผมดูไม่ออกเลยว่าแฟรงค์จะกลายมาเป็นกองกลางที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของเชลซี” โทนี่ คาร์

     “ผมพบดีแคลนครั้งแรกในต้นฤดูหนาวเดือนธันวาคม” “เขามีความสามารถที่โดดเด่นบางอย่าง เขาจ่ายบอลได้ดี เขาเล่นง่าย ๆ ไม่ต้องหวือหวา แต่กับเต็มไปด้วยวิชั่นที่ยอดเยี่ยม” “นอกจากนี้ดีแคลนยังมีคาแรกเตอร์ความเป็นผู้นำเสมอ เขาฉลาดและพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เสมอ ทั้งดีแคลนรวมถึงแฟรงค์พวกเขามีคุณสมบัติควาเป็นผู้นำทั้งคู่”

     “พวกเขามีหัวใจที่แข็งแกร่ง พวกเขาไม่เคยกลัวหรือยิ่งหย่อน ขณะที่ตามหลัง 2-0” “พวกเขาเป็นนักเตะประเภทต้องการบอลและพร้อมมีส่วนร่วมกับเกมอยู่เสมอ” “และดูเหมือนเดวิด มอยส์จะเห็นสิ่งนั้นในตัวดีแคลน พวกเขามอบปลอกแขนกัปตันทีมให้แก่เขา หากมาร์ค โนเบิ้ลไม่ได้ลงสนาม” โทนี่ คาร์ ร่ายยาว

     ไม่ใช่แค่บทบาทระดับสโมสรเท่านั้น สำหรับบทบาททีมชาติ ดีแคลน ไรซ์ คือ 1 ใน 2 กองกลางตัวจริงของกาแร็ธ เซาธ์เกต ค่อนข้างแน่นอน และนั่นแสดงให้เห็นว่า เขาคือกองกลางอันดับหนึ่งของเดอะทรีไลอ้อนเลยทีเดียว “อังกฤษไม่มีมิดฟิลด์คนนั้นยอดเยี่ยมไปกว่า ดีแคลนอีกแล้ว ต่อให้เป็นฟิลลิปส์หรือเฮนเดอร์สันก็ตาม พวกเขาไม่ได้ดีไปกว่าดีแคลนแน่นอน”

     “ชัดเจนเขาจะเป็นตัวเลือกแรกในแดนกลางของเซาธ์เกต” “ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเขาเพราะทุก ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร ผู้จัดการทีมสตาฟโค้ชต่างพร้อมสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ เหลือแค่เพียงเขาจะจริงจังแค่ไหนกับฟุตบอลของเขา” คาร์กล่าว

     ความแตกต่างระหว่างไรซ์ แลมพาร์ดอย่างเห็นได้ชัดที่สุดนอกจากถ้วยรางวัลก็คือ จำนวนประตู ตำนานกองกลางเชลซี กดไป 211 ประตู ระหว่างฤดูกาล 2001-2014 เฉลี่ย 0.33 ประตู/เกม ขณะที่ไรซ์ยิงได้เพียง 9 เกมจากทั้งหมด 183 เกมทุกรายการกับเวสต์แฮม ส่งผลให้เขามีค่าเฉลี่ยทำประตูอยู่ที่ 0.05 ประตู/เกม “เขาเป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม แต่การที่เข้าจะสามารถก้าวสู่ระดับโลกเขาจำเป็นต้องพัฒนาการยิงประตูให้มากกว่านี้ และผมเชื่อว่าเขากำลังตั้งใจทำงานหนักอยู่” โทนี่ คาร์ อดีตผู้อำนวยการอคาเดมี่สโมสรฟุตบอลเชลซีกล่าว