เอ็มบัปเป้แฮตทริก คีเลียน เอ็มบัปเป้ กองหน้าความเร็วสูงของ ปารีส แซงแชร์แมง ซัดคนเดียว 3 ประตูพาต้นสังกัดบุกถล่ม บาร์เซโลน่า ถึงถิ่นคัมป์นูขาดลอย
เอ็มบัปเป้แฮตทริก ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา เป็นการพบกันของสองยอดทีมจาก 2 ประเทศ บาร์เซโลน่า ยอดทีมจากสเปนที่นำทัพด้วย ลิโอเนล เมสซี่ จะเปิดรับการมาเยือนของ ยอดทีมจากเมืองน้ำหอม ปารีส แซงแชร์แมง รูปเกมทั้งสองทีมเปิดเกมรุกเข้าใส่ฝั่งตรงข้ามตามแบบฉบับของตัวเองแต่เป็นฝั่งผู้มาเยือนที่ทำได้เหนือกว่าบุกถล่มขาดลอย 4 ประตูต่อ 1
การพบกันของทั้งสองทีมเป็นอีกคู่ที่เป็นบิ๊กแมตช์ในรอบ 16 ทีม เพราะจะเป็นเกมที่เหล่าแฟนบอลหวังที่จะได้เห็นการเล่นเกมรุกที่สนุกเหมือนเช่นทุกครั้งที่สองทีมนี้เจอกัน
เกมเริ่มมาทั้งสองทีมต่างครองบอลเพื่อที่จะทำเกมรุกเข้าใส่กันตั้งแต่ช่วงต้นเกมกระทั่งโอกาสแรกเป็นของฝั่งเจ้าบ้านที่ กรีซมันน์ ได้ยิงทักทายก่อน แต่ต้องชม คิมแพมเบ้ กองหลังตัวเก่งของปารีส ที่เข้ามาเบียดทำให้มุมเหลือน้อย และยิงไปติดเซฟของ นาบาสรับได้ไม่ยากเย็น
รูปเกมที่สูสีทำให้เกมค่อนข้างที่จะไม่ต่อเนื่องมีการตัดเกม ทำฟาล์วกันอยู่บ่อยครั้งกระทั่งในนาทีที่ 26 เมสซี่ วางบอลยาวให้ เดอ ยอง ก่อนจะโดน ครูยซาวา ที่วิ่งตามสกิดขาจากด้านหลังล้มลงและทำให้ บาร์เซโลน่า ได้ลูกโทษที่จุดโทษ และเป็น ลิโอเนล เมสซี่ สังหารเข้าไปไม่พลาด เป็นประตูที่ฝั่งเจ้าบ้านขึ้นนำ 1 ต่อ 0
หลังจากโดนนำก็เป็นฝั่งผู้มาเยือนที่พยายามทำเกมบุกเข้าใส่ก่อนจะได้ประตูตีเสมอจากความสุดยอดของคีเลียน เอ็มบัปเป้ ที่รับบอลก่อนจะแตะหลบผู้เล่นในเกมรับก่อนจะซัดด้วยซ้ายบอลแสกหน้าประตูเข้าไปอย่างสวยงามในนาทีที่ 32 ทำให้สกอร์ เสมอกันที่ 1-1
นาทีที่ 35 ปารีสเกือบจะได้ประตูที่ 2 จากการเติมเกมรุก ของแบ็กซ้ายอย่าง ครุยซาวา ได้ยิงบอลเกือบจะเสียบเสา แต่ยังติดปลายมือของ สเตเก้น หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย นาทีต่อมาเป็นเกมสวนกลับของ บาร์เซโลน่า จะเกือบจะได้ประตูจากจังหวะยิงของ กรีซมันน์ บอลพุ่งไปเสาไกล ก่อนจะหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่จะมีโอกาสกันทำประตูเพิ่มแต่ยังไม่มีสกอร์จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 1 ประตูต่อ 1
เริ่มเกมครึ่งหลังเป็นฝั่งผู้มาเยือนที่ดูเหมือน โปเช็ตติโน่ จะแก้เกมามาได้ดีกว่า เกือบจะบวกประตูที่ สองจากจังหวะยิงของ คีนส์ บอลแฉลบ จอร์ดี้ อัลบา เกือบจะเข้าประตูแต่ต้องชมปฏิกิริยาของ สเตเก้น ที่ยิงเอื้อมมือปัดบอลไว้ได้ทัน กระทั่งนาทีที่ 65 ผู้มาเยือนได้ประตูขึ้นนำอีกจากการเติมเกมรุกฝั่งขวาของ ฟลอเรนซี่ จะเปิดบอลเข้าตรงกลาง ปีร์เก้ พยายามสกัดแต่บอลไปเข้าทางปืนของ เอ็มบัปเป้ ไปยิงโล่ง ๆ เข้าไปทำให้ผู้มาเยือนขึ้นนำ 2 ประตูต่อ 1
5 นาทีต่อมา ปารีส มาได้ประตูที่ 3 จากจังหวะฟรีคิกเกือบกลางสนาม ปาร์เรเดส เปิดเข้ามาก่อนจะเป็น มอยส์ คีนส์ ที่ขึ้นโหม่งโล่งโดยไม่มีแนวรับของบาร์เซโลน่าขึ้นประกบบอลตกลงพื้นก่อนจะกระดอนเข้าประตูไปแบบ สเตเก้นหมดสิทธิ์ป้องกันทำให้ผู้มาเยือนหนีห่างไปเป็น 3 ประตูต่อ 1 นาทีที่ 85 เป็น เอ็มบัปเป้ได้ปั่นโค้งด้วยเท้าซ้ายจากจังหวะโต้กลับที่ แดรกเลอร์ส ลากบอลจี้ตเข้ากรอบเขตโทษก่อนจะถวายพานให้เอ็มบัปเป้ปั่นโล่ง ๆ บอลโค้งเสียบเสาไกลไปอย่างสวยงาม
จบเกมการแข่งขัน 90 นาทีเป็นผู้มาเยือนที่บุกมาถล่มบาร์เซโลน่าขาดลอยไป 4 -1 ถือครองความได้เปรียบค่อนข้างมากก่อนที่จะกลับไปเล่นในบ้านตัวเองในเกมนัดที่ 2
โดยเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์ นัดที่ 2 จะกลับไปเล่นที่ ปาร์กเดแฟร็งส์ ฝรั่งเสศ ในคืนวันที่ 10 มีนาคม 2564 เวลา 03.00 น.
ติดตามข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ : ข่าวฟุตบอลวันนี้