แมนยูคืนฟอร์ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้งด้วยการบุกถล่มคู่แข่ง 4-0 ในศึกยูโรป้าลีก เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา
แมนยูคืนฟอร์ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้งหลังจากเสมอมาใน 3 เกมล่าสุด ส่วน เรอัล โซเซียดาด กำลังอยู้ในช่วงที่ฟอร์มดี ไม่แพ้ใน 90 นาทีมา 7 เกมติดต่อกัน และชนะมาใน 2 เกมล่าสุด
ในศึกยูโรป้าลีก เมื่อคืนวันพฤหัสที่ผ่านมา เกมที่ดูจะน่าสนใจมาก ๆ คู่หนึ่งคงเป็นการพบกันของ เรอัล โซเซียดาด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนจะจบการแข่งขัน 90 นาทีเป็น ปีศาจแดง ผู้มาเยือนที่ทำได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน ถล่มเจ้าบ้านไป 4 ประตูต่อ 0
เกมนี้เจ้าบ้านจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามนำทัพ อัจนาน ยานาไซด์ พร้อมกับ ดาวิด ซิลบา ลงมาคุมแดนกลาง ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้มาเยือนมีการโรเตชั่นผู้เล่น โดยเกมนี้ให้โอกาส ดาร์เนี่ยล เจมส์ เมสัน กรีนวู้ด ไอริก ไบยี่ รวมถึง อเอ็ก เทเรซ ได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริง ส่วนผู้เล่นคนสำคัญอย่าง บรูโน่ แม็คไกร์ว แรชฟอร์ด ยังพร้อมหน้า
เริ่มเกมมา ในนาทีที่ 2 เจ้าบ้านได้โอกาสทักทายก่อนจากจังหวะความผิดพลาดของ เอริก ไบยี่ ก่อนที่ ยานูไซจะได้ปั่นโค้งด้วยเท้าซ้ายบอลโค้งไม่พอหลุดเสาไกลไปเป็นโอกาสทักทายแรกของเจ้าบ้าน จังหวะต่อเนื่อง เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูของผู้มาเยือนได้เปิดบอลยาวไปถึง แรชฟอร์ด ก่อนจะวิ่งเบียดหลุดเข้าไปดวล 1-1 กับผู้รักษาประตูของเจ้าบ้านได้ยังยิงไปติดเซฟพลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย
เกมในช่วงต้นถือว่าสนุกผลัดกันบุกตั้งแต่ช่วงต้นเกมถัดมาเพียงหนึ่งนาทีเป็นเจ้าบ้านที่ได้ลุ้นจากการหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงของ อเล็กซานเดอร์ อิซัค ก่อนจะยิงไปที่เสาแรกซึ่งผู้รักษาประตูปิดมุมเอาไว้แล้วปัดออกออกหลังไปได้ นาทีที่ 16 เป็นผู้มาเยือนได้ลุ้นจากจังหวะเลี้ยงลุยเข้าไปยิงของ แม็คโทมิเนย์ แต่ต้องชม อเล็กซ์ โรมิโร่ ที่ออกมาปิดมุมได้เร็วทำให้ยังสามารถป้องกันประตูเอาไว้ได้
นาทีที่ 19 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเกือบจะได้ประตูขึ้นนำจากจังหะวที่ อเล็กซ์ เทเรซแทงทะลุช่องให้ บรูโน่ หลุดเข้าไปก่อนจะปาดบอลไปที่เสาสองที่ แรชฟอร์ดได้ยิงจ่อ ๆ แต่ก็ยังยิงไปติดเซฟของ โรมิโร่อีกครั้ง กระทั่งนาทีที่ 26 เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดขึ้นนำจากจังหวะ แรชฟอร์ด ยกบอลไปให้ บรูโน่ ก่อนที่ 3 ผู้เล่น โซเซียดาดที่เข้ามาแย่งกันเล่นบอลพร้อมกันทำให้บอลไปเข้าทาง บรูโน่ได้ยิงบอลง่าย ๆ เข้าไปให้ผู้มาเยือนขึ้นนำ 1 ประตูต่อ 0 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
เกมครึ่งหลังเป็นฝั่งเจ้าบ้านที่โถมเกมบุกเข้าใส่ซึ่งทำให้ ปีศาจแดงโต้ลงไปเล่นเกมรับแล้วรอสวนกลับ และจากจังหวะที่ ดาวิด ซิลบา ไปเสียบอลไปการเล่นเกมรุกทำให้ผู้มาเยือนได้โต้กลับทันที แรชฟอร์ดรับบอลทางฝั่งซ้ายก่อนจะแทงทะลุไปให้ ดาร์เนี่ยล เจมส์ ซึ่งเหมือนจะจับบอลแรกไม่ดี แต่บอลที่จับไม่ดีกลับกลายเป็นดีเหมือนตั้งให้ บรูโน่ได้วิ่งเข้ามาปั่นด้วยเท้าขวา บอลโค้งเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูขึ้นนำ 2-0 ในนาทีที่ 58
นาทีที่ 64 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหนีห่างเป็น 3-0 จากจังหวะโต้กลับเร็ว ที่ เฮนเดอร์สันตัดบอลได้จากจังหวะเปิดของโซเซียดาด ก่อนจะออกบอลให้ เฟรดพาบอลขึ้นมาก่อนจะแทงทะลุช่องสุดสวยให้มาร์คัส แรชฟอร์ดหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงครั้งนี้ไม่พลาด
หลังจากนั้นรูปเกมของฝั่งเจ้าบ้านไม่ได้ดีขึ้นกลับถูกยูไนเต็ดบุกเพื่อที่จะเอาประตูเพิ่ม ก่อนที่ผู้มาเยือนจะมาบวกประตูที่ 4 ในนาทีที่ 90 จากจังหวะหลุดเข้าไปทางฝั่งขวาของดาร์เนี่ยล เจมส์ ใช้ความเร็วลากบอลเข้ากรอบเขตโทษก่อนจะยิงบอลลอดหว่างขาผู้รักษาประตูเข้าไปเป็นประตูหนีห่าง 4-0
จบเกมการแข่งขัน 90 นาทีเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้มาเยือนบุกไปเอาชนะ เรอัล โซเวียดาด 4-0 ถือเป็นการกุมความได้เปรียบอย่างมากก่อนจะกลับไปเล่นที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด
โปรแกรม ยูโรป้า ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เรอัล โซเซียดาด ในคืนวันพฤหัสบดี ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 03.00 น.
ติดตามข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ : ข่าวฟุตบอลต่างประเทศย้อนหลัง