เกมประวัติศาสตร์ เปิดบรรยากาศเกมประวัติศาสตร์ของสโมสร บีจีปทุม ยูไนเต็ด
เกมประวัติศาสตร์ ในเกมไทยลีกสัปดาด์ที่ 24 คู่ที่น่าจับตามองมากที่สุดคงจะเป็นเกมระหว่าง บีจีปทุมที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของสุโขทัยเอฟซี หากเกมนี้บีจีปทุม สามารถเอาชนะสุโขทัยได้ จะคว้าแชมป์ไทยลีกฤดูกาลนี้ทันที ซึ่งก็ไม่ผิดคาด จบการแข่งขัน 90 นาที บีจีปทุม เปิดบ้านอัดสุโขทัยไป 2-0 คว้า 3 แต้มทำให้แต้มขาดและคว้าแชมป์ลีกปีนี้มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่
รูปแบบการเล่นพร้อมกับตัวผู้เล่น รูปแบบการเล่นในเกมนี้ บีจีปทุม ยังคงเล่นด้วยทีมเวิร์ค ครองบอลพร้อมกับทำเกมรุกเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามเหมือนเช่นใน ๆ ทุกเกมที่ผ่านมานับตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาล เกมรับที่ยักษ์ใหญ่สามคนในแดนหลังสามารถจัดการกับเกมรุกของคู่ต่อสู้ได้อยู่หมัด แดนกลางที่เต็มไปด้วยคุณภาพ ทั้ง สารัช ฐิติพันธ์ รวมถึง สุมัญญา ที่อายุก้าวเข้าสู่เลข 3 แต่ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม
อีกหนึ่งผู้เล่นที่เสริมเข้ามาถือว่าคุมค่ามาก ๆ อีกหนึ่งคนคือ สันติภพ จันทร์หง่อม แบ๊กขวาจอมลุย ซึ่งเจ้าต้วน่าจะกลายเป็นแบ๊กขวาตัวเลือกแรก ๆ ของ อากิระ นิชิโนะ ในการใช้งานในทัพช้างศึกไปแล้ว ส่วนผู้เล่นอื่น ๆ ที่เสริมเข้ามาให้ช่วงเลกสอง ถึงจะได้สัมผัสเกมไม่มากเพราะพึ่งจะย้ายเข้ามาอยู่กับทีมได้ไม่นานทีมก็เข้าเส้นชัยคว้าแชมป์ไปแล้วแต่ก็ถือเป็นการเสริมทีมเพื่ออนาคตในการไปลุยฟุตบอลเอเชียในฤดูกาลหน้า
แฟนบอลได้ฉลองแชมป์ เกมนี้เป็นเกมนัดแรกที่ บริษัทไทยลีก และสมาคมฟุตบอลได้รับอนุญาต จาก ศบค. ให้แฟนบอลสามารถเข้าชมเกมกาแข่งขันได้ 25 เปอร์เซ็นต์ของความจุสนาม ทำให้แฟนบอล 1,800 คนที่เข้ามาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ผู้เล่น บีจีปทุม วิ่งสู้ฟัดเพื่อเพื่อต้องการจะปิดจ๊อบคว้าแชมป์ลีกให้ได้ในเกมนี้ ไม่มีเวลาไหนจะเหมาะสมกว่านี้อีกแล้ว ทั้งได้เล่นในสนามของตัวเอง แฟนบอลได้เข้าชมเกม
บรรยากาศที่แตกต่าง 3 ปี 3 เหตการณ์ ในฤดูกาล 2018 เหล่าแฟนบอลของบีจีต่างต้องเสียใจที่ทีมรักของตัวเองต้องตกชั้นลงไปเล่นในไทยลีก 2 ซึ่งมันทำให้หลายต่อหลายคนมองว่าคงต้องใช้เวลาหลายปีในการจะกลับขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดอีกครั้ง แต่ไม่ใช่สำหรับบีจีปทุม เพราะพวกเขาสามารถกลับขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดได้โดยใช้เวลาไปเล่นในลีกรองอยู่เพียงปีเดียว โดยการคุมทีมของโค้ชโอ่ง ดุสิต เฉลิมแสน
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องพูดถึงคือเหล่าผู้เล่นที่หากมองโดยทั่วไป นักเตะของบีจี ที่มีในตอนนั้นเล่นบนลีกสูงสุดได้สบาย ๆ แต่สปิริตที่พวกเขามีทำให้พวกเขาอยู่สู้กับทีมต่อจนทำให้คว้าแชมป์ไทยลีก 2 ในปี 2019 พร้อมกลับขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดได้อย่างยิ่งใหญ่ หลังจากขั้นมาเล่นบนลีกสูงสุดบีจีออกสตาร์ด้วยการประกาศว่าปีนี้จะมาลุ้นแชมป์พร้อมกับเสริมตัวผู้เล่นใหม่เข้ามารายหลายพร้อมกับทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนถึงในเกมเมื่อวานที่พวกเขาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเมืองไทยได้ในที่สุด
สุดท้ายของจะเป็นเป้าหมายต่อไปของสโมสรอย่างแรกคือหลังจากเกมนี้ เหลือเกมการแข่งขันอีก 6 เกม โค้ชโอ่ง ดุสิต เฉลิมแสน จะเลือกจัดตัวผู้เล่นอย่างไร ถ้ามองกันโดยทั่วไป เกมที่เหลือก็คงจะเป็นการให้โอกาสรุ่นน้องกับผู้เล่นตัวสำรองได้ลงเล่นเพื่อสร้างความมั่นใจ หรือ โชว์ศักยภาพให้โค้ชหรือเหล่าแฟนบอลได้เห็นว่าเขาดีพอที่จะอยู่ในบีจีปทุม ชุดประวัติศาสตร์การไปลุยฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชียเป็นครั้งแรก ส่วนสถิติอีกหนึ่งอย่างที่ยังอยู่ในเส้นทางก็คือการเป็นแชมป์ไร้พ่าย ซึ่งในไทยลีกมีสองทีมที่ทำได้ นั่นก็คือ เมืองทอง และ บุรีรัมย์ ที่เคยว้าแชมป์ลีกแบบไร้พ่ายมาแล้ว
ติดตามข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่ : ข่าวฟุตบอลไทยล่าสุด