เริ่มเกมมา 11 นาที สเปน มาออกนำ 1-0 เมื่อ กาบี ดีดบอลจังหวะเดียวไปแฉลบแนวรับ คอสตาริกา มาเข้าทาง ดานี่ โอลโม่ ที่ยืนหันหลังให้ประตูเกี่ยวพร้อมม้วนหนี ดูอาร์เต้ ไปกระดกข้ามตัว เกย์ลอร์ นาวาส ตุงตาข่ายอีก 10 นาทีถัดมา กระทิงดุ มาหนีห่าง 2-0 เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ วางบอลออกซ้าย จอร์ดี้ อัลบา เปิดบอลจากฝั่งซ้ายกระดอนพื้นเข้ากลางให้ มาร์โก อาเซนซิโอ ตั้งเท้าแปทีเดียวแบบไม่จับส่งบอลผ่านมือ นาวาส เสียบเสาไกลไม่เหลือ

นาทีที่ 30 สกอร์มาขยับเป็น 3-0 อัลบา ครองบอลแล้วถูก ออสการ์ ดูอาร์เต้ แหย่จิ้มที่ข้อเท้าล้ม กรรมการชี้จุดโทษทันที เฟร์ราน ตอร์เรส จัดการยิงเล่นทางหลอก นาวาส เข้าประตูไป หมดครึ่งแรก สเปน ทิ้งห่าง คอสตาริกา อยู่ 3-0

ในครึ่งหลัง นาทีที่ 54 สเปน มาทิ้งเป็น 4-0 เฟร์ราน ตอร์เรส ถ่ายบอลไปที่ กาบี สอดมาด้านขวานอกกรอบจ่ายคืนมาที่ เฟร์ราน แตะบอลลั่น ทว่าเจ้าตัวยังเร็วใช้ตัวบังแนวรับคู่แข่งที่พยายามขวางหมุนตัวซัดกรอบ 6 หลาตุงตาข่าย
สเปน ยังไม่ผ่อนคันเร่งเลย นาทีที่ 74 ก็ขยับเป็น 5-0 อเลฆานโดร บัลเด้ ตัวสำรองทิ่มบอลไปที่ อัลบาโร่ โมราต้า ที่ถูกส่งลงสนามหลุดกับดักล้ำหน้าแตะถึงบอลก่อน นาวาส ออกไปนอกเขตโทษทำให้ต้องม้วนตัวเปิดมาตกตรงหน้าเขตโทษ และเป็น กาบี ที่สอดมาดีดด้วยเท้าขวาข้างเท้าด้านนอก บอลชนเสาไกลเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น

นาทีที่ 90 สเปน หนีเป็น 6-0 เมื่อ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ กระชากมาทางกราบขวาก่อนเปิดเรียดเข้ากลาง นาวาส ล้มตัวปัดออกมา แต่กลายเป็นเข้าทางปืน การ์ลอส โซเลร์ สวนตูมเดียวตุงตาข่าย
ไม่พอแค่นั้น ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 กระทิงดุ มาได้ประตูปิดกล่อง เมื่อ วิลเลี่ยมส์ จ่ายเรียดจากฝั่งขวาเข้ากลางให้ โมราต้า ไหลย้อนคืนมาที่ ดานี่ โอลโม่ ชิ่งทีเดียวคืน โมราต้า สอดไปยิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย จบเกม สเปน ถล่ม คอสตาริกา 7-0