5 อันดับแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ในความทรงจำ
ในที่สุดเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกก็ได้คู่ชิงเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจาก แมนฯ ซิตี้ ไล่ต้อน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และอีกฝั่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะการดวลจุดโทษตัดสินให้กับ ไบรท์ตัน ในรอบรองฯ ดังนั้นรอบชิงชนะเลิศจึงเป็น แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ทั้งคู่ไม่เคยพบกันในรอบชิงฯมาก่อนสำหรับรายการนี้ ซิตี้ นั้นกำลังลุ้นคว้าเทรเบิ้ลแชมป์ ส่วน ยูไนเต็ด ก็เหลือลุ้นคว้าดับเบิ้ลแชมป์หลังกระเด็นตกรอบยูโรป้าไปหมาด ๆ วันนี้เราจะมานำเสนอคอนเทนต์ 5 อันดับแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ในความทรงจำ

5. แมนฯยูไนเต็ด 2-1 แมนฯซิตี้ (12/2/2011)
แมนเชสเตอร์ดาร์บี้ เกมนี้จำเป็นต้องติดอันดับประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน เมื่อลูกยิงจักรยานกลางอากาศของ เวย์น รูนีย์ ยิงใส่ประตู แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อ หลุยส์ นานี่ ยิงประตูให้ทีมเจ้าบ้านขึ้นไปก่อนท้ายครึ่งแรก ก่อนที่นาทีที่ 65 ดาบิด ซิลบา จะตามมายิงตีเสมอนาทีที่ 65 ได้สำเร็จ ก่อนที่จะได้ เวย์น รูนีย์ ยิงประตูสุดสวยนาทีที่ 78
ความยอดดเยี่ยมของเกมนี้ : จังหวะการเข้าทำที่ยอดเยี่ยมโดยลูกครอสของ หลุยส์ นานี่ กับลูกบอลที่ลอยกลางอากาศ แต่ด้วยสัญชาติญาณของกองหน้า ทีมชาติอังกฤษ ณ ชณะนั้นตีลังกาจักรยานกลางอากาศเข้าไป ทำเอา เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ยังไม่เชื่อสายตาของตัวเอง เมื่อเขาดีใจราวกับเด็กหนุ่ม 18 ปี “แน่นอนหากจะมีพูดถึงประตูที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา มันจะต้องเป็นประตูของเวย์นอย่างไม่ต้องสงสัย” ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อดีตเพื่อนร่วมทีมยูไนเต็ดรูนีย์กล่าว

4. แมนฯซิตี้ 2 -3 แมนฯยูไนเต็ด (9/12/2012)
ชัยชนะอีกหนึ่งเกมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยุคใหม่ ขณะนั้นทีม เรือใบสีฟ้า ก้าวขึ้นมาเป็นทีมที่สามารถต่อกรแย่งแชมป์กับทีม ปีศาจแดง ได้อย่างสูสี เกมดังกล่าวนับว่าเป็นดาร์บี้แมตช์สกอร์สูงทำเอาแฟน ๆ คุ้มค่าตั๋วทุกบาททุกสตางค์อย่างมาก
ความยอดเยี่ยมของเกมนี้ : เริ่มเกมทั้งสองทีมพลัดกันยิงประตู จนกระทั่ง โรบิน ฟาน เพอซีย์ มายิงฟรีคิกด้วยเท้าซ้ายสั่งได้บอลโค้งเสียบเสาชนิดที่ โจ ฮาร์ท ยังพุ่งผิดทาง ทำเอา โรเบอร์โต มันชินนี่ โกรธเป็นฝืนเป็นไฟ ชัยชนะของ ยูไนเต็ด เกมนั้น ส่งผลให้พวกเขาทิ้งห่าง ซิตี้ ถึง 6 แต้มทันที

3. แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-6 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (23/10/2011)
โศกนาฎกรรมครั้งแรก นับตั้งแต่ดาร์บี้แมตช์ของเกมเริ่มต้นขึ้นมาเลยก็ว่าได้ เมื่อสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอด 20 ฤดูกาลหลังอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องถูกอริศัตรูตลอดกาลอย่าง แมนฯ ซิตี้ ถล่มคา โรงละครแห่งความฝัน ไป 6-1 สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมนั้นเต็มไปด้วยโมเมนต์ที่น่าจดจำมากมาย นอกจากเกมยำใหญ่ ผีแดง ครั้งแรกในรอบ 50 ปีเลยก็ตาม
เกมดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นได้เพียงไม่กี่นาที เมื่อ จอนนี่ อีแวนส์ ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังจากนั้นทีมเยือนก็เริ่มบุกโหมกระหน่ำเข้าใส่ผู้เล่น 10 คนของ ปีศาจแดง อย่างหนัก ก่อนที่จะได้ประตูขึ้นจาก 1-0 จาก มาริโอ บาโลเตลลี่ และ เซอร์จิโอ อเกวโร่ ก่อนที่ยูไนเต็ดจะได้แรงฮึดลูกตีไข่แตกนาทีที่ 81 จาก ดาร์เรน เฟลชเชอร์ ก่อนที่จะถูกลูกทีมของ โรเบอร์โต มันชินี่ เล่นลูกสวนกลับจาก เอดิน เชโก้ 2 ประตูและ ดาบิด ซิลบา หนึ่งประตู
ความยอดเยี่ยมของเกม : ความพ่ายแพ้ดังกล่าว ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงกับต้องแต่งเพลงเพื่อเกมในวันนั้น รวมถึงจังหวะฉลองประตูด้วยข้อความ Why always me บนเสื้อของเขา นับว่าจังหวะดังกล่าว ทำเอากลบสกอร์ครึ่งโหลยำใหญ่ยูไนเต็ดเลยทีเดียว

2. แมนฯซิตี้ 1-0 แมนฯยูไนเต็ด (30/4/2012)
ชัยชนะอีกเกมที่สำคัญของลูกทีม โรเบอร์โต้ มันชินี่ เมื่อกัปตันทีม แวงซ็อง กอมปานี กระโดดโหนโหม่งเอาชนะ คริส สมอลลิ่ง ได้สำเร็จ และนั่นคือประตูเดียวของเกม แต่กลับสำคัญมาก ๆ ความพ่ายแพ้ในเกมดังกล่าวทำเอา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงกับฟอร์มรูด หลังพวกเขาแพ้ให้กับ วีแกน และเสมอในบ้านกับ เอฟเวอร์ตัน ส่งผลให้พวกเขาเกือบพลาดคว้าแชมป์ในฤดูกาลดังกล่าวเลยทีเดียว

1. แมนฯยูไนเต็ด 4-3 แมนฯซิตี้ (20/9/2009)
นี่ไม่ใช่แค่เกม แมนเชสเตอร์ดาบี้ ที่ดีที่สุด แต่เกมนี้คือ เกมดาร์บี้แมตช์ที่ดุเดือดเกมหนึ่งของโลกฟุตบอล ถึงแม้บทสรุปของเกมจะถูกตัดสินโดย ไมเคิ่ล โอเว่น ฮีโร่ของ ยูไนเต็ด ก็ตาม แต่สองประตูของ เคร็ก เบลลามี่ ก็น่าจดจำเช่นกัน
ความยอดเยี่ยมของเกมนี้เกิดขึ้น เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด นำอยู่ 2-0 จาก เวย์น รูนีย์ และ ดาร์เรน เฟลชเชอร์ ยูไนเต็ด ไม่น่าพลาด 3 แต้ม กระทั่ง ปีศาจแดง ถูก เบลลามี่ กดคนเดียว 2 ประตู ช่วง 90 นาทีสุดท้ายของเกมทำเอาแฟนบอลทั่วโลกช็อคตาม ๆ กัน
กระทั่ง ไมเคิ่ล โอเว่น ลงมาซัดประตูชัยช่วงท้ายทดเจ็บ ทำเอาผู้เล่นของ ซิตี้ รวมถึงเหล่าบรรดาสตาฟโค้ชปะทะกันยกใหญ่ หวิดวางมวย ว่าเหตุใดทำไมกรรมการไม่เป่าจบเกมสักที ขณะที่ เฟอร์กี้ เองก็ให้สัมภาษณ์โจมตีอริร่วมเมืองว่าก็เพราะพวกเอ็งถ่วงเวลาตอนเปลี่ยนตัวไงล่ะ