เส้นทางลุ้น 4 แชมป์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เส้นทางลุ้น 4 แชมป์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2022/23 ดำเนินมาถึงปลายเดือนมีนาคม เป็นช่วงพักเบรกทีมชาติ แล้วพรีเมียร์ลีกจะกลับมาโม่แข้งกันอีกครั้งในเดือนเมษายน นับถึงตรงนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บไปแล้ว 1 แชมป์ (คาราบาวคัพ) จากการเอาชนะ นิวคาสเซิล ในรอบชิงชนะเลิศ แล้วในอีก 3 รายการที่เหลือ หากมองตามทฤษฎี “ปีศาจแดง” ยังมีโอกาสลุ้นทั้ง 3 รายการ

พรีเมียร์ลีก ลุ้นยากหน่อย แต่ยังมีลุ้น
ผ่านไป 26 นัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บได้ 50 คะแนน อยู่อันดับ 3 ตามหลังอันดับ 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (27 นัด) 11 คะแนน และอยู่ห่างจ่าฝูง อาร์เซน่อล (28 นัด) 19 คะแนน ในทางปฏิบัติเป็นเรื่องยากที่จะแซงทั้งสองทีมด้านบน แต่ในทางทฤษฎี หากพวกเขาเก็บชัยชนะในอีก 12 เกมที่เหลือได้ทั้งหมด มันก็มีสิทธิเป็นไปได้ แต่ว่าสองทีมด้านบนก็ต้องแพ้อย่างน้อย 4-5 นัด ซึ่งด้วยฟอร์มแบบนั้น คงยากที่จะพลาด
แต่จะว่าไป แมนฯ ยูไนเต็ด พึ่งจะโดนทิ้งขาดในสองนัดล่าสุดนี่เอง เมื่อพวกเขาไปพลาดท่าแพ้ให้กับ ลิเวอร์พูล 0-7 ต่อเนื่องด้วยการเสมอกับ เซาแธมป์ตัน 0-0 ทำให้เกมได้เปรียบที่อยู่ในมือ ไม่ค่อยมีความหมายเท่าไหร่

แชมป์ฟุตบอล เอฟเอคัพ เหลืออีก 2 ด่าน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกตัวในฟุตบอล เอฟเอคัพ ด้วยการเอาชนะ เอฟเวอร์ตั้น 3-1 จากนั้นในรอบที่ 4 ก็เอาชนะ เรดดิ้ง ด้วยสกอร์เดิม เข้าสู่รอบที่ 5 ก็ยังเอาชนะ เวสต์แฮม ด้วยสกอร์เดิม ส่วนในรอบที่ 6 หรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย “ปีศาจแดง” เก็บชัยเหนือ ฟูแล่ม 3-1 แบบน่าแพ้ นั่นเท่ากับว่า ใน 4 รอบที่ผ่านมา พวกเขาเอาชนะคู่แข่งด้วยสกอร์ 3-1 ทั้งหมด
ในรอบรองชนะเลิศ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องวัดฝีมือกับ ไบรท์ตั้น ทีมนอกท็อปซิกซ์ที่ร้อนแรงที่สุดแห่งปี แล้วก็ทีมนี่นี่แหละ ที่บุกไปตบตีพวกเขาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงต้นฤดูกาล 2-1 ซึ่งหากพวกเขาสามรถแก้มือได้ (23 เมษายน 2023) คู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศ ก็น่าจะหนีไม่พ้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะพบกับ เชฟฟิลด์ยูไนเต็ด ถึงตรงนั้น รอบชิงชนะเลิศ มันสามารถออกได้ทั้งสองหน้า
แล้วการรับมือ “เรือใบ” 2 หนในฤดูกาลนี้ “ปีศาจแดง” แพ้ในเกมแรก 3-6 ส่วนในนัดที่ 2 พวกเขาแก้มือได้ด้วยสกอร์ 2-1

แชมป์ฟุตบอล ยูโรป้าลีก เหลืออีก 3 ด่าน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดตัวในฟุตบอล ยูโรป้าลีก ได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเขาพ่ายให้กับ เรอัล โซเซียดัด 0-1 แต่จากนั้น พวกเขาเก็บชัยชนะ 5 นัดรวด หนึ่งในนั้นคือการบุกไปแกแค้น เรอัล โซเซียดัด 1-0 อย่างไรก็ตาม พวกเขาจบแค่ที่ 2 ของกลุ่ม เพราะลูกได้เสียเป็นรอง
นั่นทำให้ต้องไปเล่นรอบเพลย์ออฟ ซึ่งต้องเจอของหนักอย่าง บาร์เซโลน่า แต่พวกเขาเอาตัวรอดได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการบุกเสมอที่คัมป์ นู 2-2 ก่อนจะกลับมาเล่นใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด แล้วไล่แซง 2-1 หลังจากตกเป็นรองในครึ่งเวลาแรก

นั่นทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ไปจ๊ะเอ๋กับ เรอัล เบติส อีกหนึ่งทีมจากสเปน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เมื่อปีศาจแดงบุกไปยำ 4-1 ในนัดแรก ก่อนจะมาปิดจ๊อบในบ้านตัวเอง 1-0 ตีตั๋วเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
คู่แข่งในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ถือว่าหนักที่สุดเท่าที่เคยเจอมา นอกจากจะเป็นสโมสรจากสเปนทีมที่ 4 ที่พวกเขาต้องประมือ เซบีญ่า ยังเป็นเจ้าของแชมป์รายการนี้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ หากว่า เรอัล มาดริด คือเต้ยในถ้วย ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ลีก เซบีญ่า ก็คือบอสใหญ่ใน ยูโรปาลีก เช่นเดียวกัน
ซึ่งหากพวกเขาผ่านไปได้ รอบรองชนะเลิศ ได้พบกับผู้ชนะระหว่าง ยูเวนตุส กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน แล้วหากยังได้ไปต่อ คู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศ มีสิทธิเป็นไปได้ทั้ง เฟเยนูร์ด , โรม่า , ยินิยงฯ และ เลเวอร์คูเซ่น