เอ็มบัปเป้ กับอีโก้ที่กำลังกลืนกินความเก่งกาจ
หลังจากที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ยอดทีมจากลีกเอิง ประกาศต่อสัญญากับ คีลิยาน เอ็มบ๊าปเป้ ออกไป ซึ่งนั่นทำให้เขาเป็นนักเตะที่ได้ค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลก รวมถึงข้อเสนอต่างๆที่มัดรวดกันมา นับว่าเป็นข้อเสนอที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ฟุตบอลอาชีพเริ่มต้นมา

ว่ากันว่า ข้อเสนอดังกล่าว ทำให้ เอ็มบัปเป้ เป็นนักเตะเพียงคนเดียวที่ได้รับอภิสิทธิ์เหนือทุกคนในทีม เหนือกว่าแม้กระทั่ง เลโอเนล เมสซี่ รวมถึง เนย์มาร์ จูเนียร์ ซึ่งราวกับว่าเขาเป็นหนึ่งในหุ้รส่วนสโมสรก็มิปาน จนหลายคนแอบแซะว่า เขาเป็นประธานสโมสร
ในวัยแค่ 23 ปี นับว่า เอ็มบัปเป้ ขึ้นสู่จุดสูงสุดของฟุตบอลได้อย่างรวดเร็ว เข้าเป็นแชมป์โลกตั้งแต่อายุ 18 ย่าง 19 ปี ซึ่งไม่ใช่แค่ติดอยู่ในทีม แต่เขาเป็นศูนย์หน้าตัวหลักของทีมชาติฝรั่งเศสในชุดนั้น (2018) ขณะที่ความสำเร็จในระดับสโมสร เขาก็คว้ามาแล้วอย่างมากมาย
หากนับความสำเร็จในวัยเดียวกัน เขาเหนือกว่า เลโอเนล เมสซี่ รวมไปถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทว่าพฤติกรรมที่แสดงออกมา มันช่างแตกต่างจากสองผู้ยิ่งใหญ่ในวัยเดียวกันซะเหลือเกิน ซึ่งนั่นมันเป็นเหมือนอีโก้ ที่กำลังบดบังความเก่งกาจของเขาไป
หยุดวิ่งไปเฉยๆ เนื่องจากไม่พอใจเพื่อนร่วมทีม ที่ไม่ส่งบอลให้

ย้อนกลับไปในเกมลีกเอิง 2022/23 นัดที่ 2 ที่ เปเอชเช เปิดบ้านรับการมาเยือนของ มงต์เปลิเยร์ แน่นอนว่าสกอร์ 5-2 ไม่ได้ถูกพูดถึงมากเท่าไหร่นัก แต่ที่ชาวโซเชียลวิจารณ์กันแบบสนุกปาก เริ่มกันที่จังหวะแรก เป็นช่วงที่ เปเอชเช กำลังเล่นเกมสวนกลับ ซึ่งบอลอยู่ที่ วิตินญ่า เขาลากบอลมาถึงกลางสนาม ฝั่งขวามี เลโอเนล เมสซี่ วิ่งทำทาง ตัดมาที่ฝั่งซ้าย คีลิยาน เอ็มบัปเป้ ก็กำลังวิ่งเปิดที่ว่างให้กับตัวเอง แน่นอนว่าตามสูตรฟุตบอล ไม่ว่าจะได้บอลหรือไม่ ก็ต้องเติมให้สุด แล้วยิ่งเป็นแนวรุก ก็ยิ่งต้องวิ่งเข้าใกล้เขตโทษ แล้วหาพื้นที่สังหารให้กับตัวเอง แต่ทุกอย่างมันไม่ได้เป็นแบบนั้น ครั้นถึงจังหวะที่ วิตินญ่า ไหลบอลไปทางขวาให้กับ เมสซี่ เป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ เอ็มบัปเป้ หยุดวิ่งไปเฉยๆ หยุดวิ่งแบบไม่ได้มีอะไรกั้น แถมยังหันหน้าหนีไปสนใจจังหวะดังกล่าวอีกต่างหาก
แย่ง เนย์มาร์ ยิงจุดโทษ เพื่อแก้ตัวในจังหวะแรกที่ยิงพลาด

ในเกมเดียวกันกับ มงต์เปลิเยร์ เข้าสู่นาทีที่ 23 เปเอชเชได้จุดโทษ ซึ่งจังหวะนั้น คีลิยาน เอ็มบัปเป้ รับหน้าที่สังหาร แต่ยิงไปติดเซฟของ โยนาส ออมลิน แล้วตัดภาพมาที่นาที 43 เปเอชเชได้จุดโทษอีกหน ซึ่งตามปกติแล้ว เอ็มบ๊าปเป้ ต้องเป็นคนยิง หากว่าด้วยเรื่องมือสังหารจุดโทษของทีมอื่นๆ ทว่ากับเปเอชเชแตกต่างออกไป เนื่องจากพวกเขามีมือสังหารจุดโทษระดับทีมชาติหลายคน ทำให้ถูกแบ่งมาแล้วว่า หากได้จุดโทษครั้งต่อไป เนย์มาร์ จะต้องเป็นคนยิง ทว่าด้วยความที่ เอ็มบัปเป้ อยากแก้ตัวในจังหวะแรกที่ยิงพลาด จึงจะเข้าไปยิงในจังหวะนี้เอง ซึ่งแน่นอนว่า เนย์มาร์ อีกหนึ่งตัวตึงจากบราซิลไม่ยอมเป็นแน่ ว่าแล้วสตาร์แซมบ้าก็ซัดจุดโทษนั้นเข้าไปส่งทีมออกนำ 2-0 บวกกับอีก 1 สกอร์ในนาที 51 ส่งทีมหนีห่าง 3-0
เดินชน เลโอเนล เมสซี่ แบบไม่เห็นหัว

แน่นอนว่า เลโอเนล เมสซี่ คือเบอร์ 1 ของโลก ที่เริ่มโรยรา ขณะที่ คีลิยาน เอ็มบัปเป้ เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่กำลังจะก้าวไปแทนที่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เอ็มบัปเป้ เดินชน เมสซี่ ชนิดที่ดาวเตะอาร์เจนไตน์ ถึงกับทำหน้างงว่า มรึงเดินชนกรูทำไมวะ ซึ่งจังหวะดังกล่าวเป็นแอคชั่นก่อนที่เขาจะไปขอ เนย์มาร์ ยิงจุดโทษนั่นเอง ไร้การขอโทษ ไร้การหันกลับมามอง เหมือนกับว่า เมสซี่ ไม่อยู่ในสายตาของเด็กที่ชื่อ คีลิยาน เอ็มบัปเป้