TOP 10 จอมพังประตู จัด 10 อันดับดาวยิงประจำฤดูกาล 2019/2020
TOP 10 จอมพังประตู นอกจากที่จะมีการจัดอันดับดาวซัลโวของแต่ละลีกการแข่งขันแล้ว สมาคมฟุตบอล หรือ ฟีฟ่า ยังมีการจัดอันดับเหล่าผู้เล่นจอมถล่มประตูในลีกยุโรปเพื่อเป็นหนึ่งในเกณฑ์การวัดค่าสัมประสิทธิ์ในการให้โควต้าการเข้าไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์อีกด้วย

อันดับที่ 10 : ราฮีม สเตอร์ลิง | แมนเชสเตอร์ ซิตี้
| 20 ประตู ( 40 คะแนน )
ปีกจรวดความเร็วสูงที่เป็นผู้เล่นคนสำคัญในเกมรุก ที่เรือใบสีฟ้า ขาดไม่ได้แล้วในตอนนี้ นอกจากจะเป็นผู้เล่นตัวริมเส้นที่ปั่นป่วนแนวรับของคู่ต่อสู้ ในสถานการณ์ที่ทีมขาดกำลังสำคัญในแดนหน้า เขายังถูกจับให้ไปยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าอยู่บ่อยครั้งและด้วยความเร็วและความสามารถในการเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ชนิดดึงเสื้อก็ไม่ทัน ทำให้ นักเตะชาวอังกฤษ สามารถทำได้ถึง 20 ประตูและเข้ามาติดอยู่ในอันดับที่ 10 ของ 5 ลีกยุโรปอีกด้วย

อันดับที่ 9 : ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง | อาร์เซน่อล
| 21 ประตู ( 42 คะแนน )
ท่ามกลางกระสือรวมถึงข่าวลือมากมาย เรื่องการเปลี่ยนแปลงกุนซือ รวมถึงการจัดการภายในทีมทำให้ พลพรรคไอ้ปืนใหญ่อาร์เซน่อล แกว่งไปมาอยู่ไม่ใช่น้อย ด้วยแผนการเล่นที่อาจจะยังไม่ลงตัว รวมถึงวันดีผีเข้าผีออก ของนักเตะภายในทีมทำให้ผลงานโดยรวมของอาร์เซน่อล ไม่สู้ดีนัก จบฤดูไปด้วยอันดับที่ 8 แต่ผลงานส่วนตัวของ โอบาร์ ไม่ถือว่าขี้ริ้วขี้เหร่อะไรเขาสามารถทำได้ถึง 21 ประตู และสามารถติดอยู่ในอันดับที่ 9 ของยุโรป

อันที่ 8 : เจมี วาร์ดี้ | เลสเตอร์ ซิตี้
| 23 ประตู (46 คะแนน)
ศูนย์หน้าตัวเป้าวัย 33 ปีสัญชาติอังกฤษผู้เป็นทุกอย่างในเกมรุกของจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ซิตี้ กระหน่ำไปถึง 23 ประตูทำให้จิ้กจองสยามจบฤดูกาลด้วยที่ 5 ซึ่งถือว่า หลังจากเลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่บนพรีเมียร์ลีก วาร์ดี้ สถาปนาทั้งตัวเองและสโมสรขึ้นมาเป็นทีมในระดับหัวตางรางได้อย่างรวดเร็ว เป็นผู้เล่นคนสำคัญในชุดประวัติศาสตร์ที่เลสเตอร์ คว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งแรก แม้ในฤดูกาล 2019-2020 วาร์ดีจะมีอายุอานามถึง 32 ปี แต่ด้วยสภาพร่างกายและวินัยที่มีมากล้นทำให้เขายังเป็นผู้เล่นที่มากด้วยศักยภาพและทำประตูได้ได้ ถึง 23 ประตู

อันดับที่ 7 : โรเมอู ลูกากู | อินเตอร์ มิลาน
| 23 ประตู (46 คะแนน)
ลูกากู ศูนย์หน้าร่างยักษ์ที่เหมือนมาเปิดใหม่กับ งูใหญ่ อินเตอร์มิลาน หลังจากที่ฟอร์มตกต่ำอย่างมากกับการเป็นผู้เล่นของ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2019-2020 เขากลาย
เป็นผู้เล่นสำคัญของทัพงูใหญ่ ที่หวังจะพาทีมลุ้นแชมป์ และขับเขี้ยวกันอย่าง
สนุกสุดมันส์กับ ยูเวนตุสที่มี คริสเตียโน โรนัลโด้ ย้ายมาประจำการอยู่ ลูกากูพา
ทัพงูใหญ่เก็บแต้มอย่างเป็นกอบเป็นกำและเก็บไปได้ถึง 82 แต้มแต่ถึงอย่างนั้นก็ยัง
ไม่สามารถที่จะเอาชนะ ยูว่ได้ซึ่งมีคะแนนห่างกันเพียง 1 แต้มเท่านั้น ถือเป็นปีที่
น่าเสียดายมาก ๆ สำหรับเหล่าสาวกงูใหญ่อินเตอร์มิลา

อันดับที่ 6 : เออร์ลิง ฮาลันด์ | ซัลซ์บวร์ก/ดอร์ทมุนด์
| 29 ประตู (50 คะแนน)
ฮาลันด์ กองหน้าดาวรุ่งวัยเพียง 20 ปี ที่ย้ายมาจาก เรดบูล ซัลบวร์ก เข้ามาเขย่าวงการฟุตบอลเยอรมันได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจด้วยการลงสนามนัดแรกเป็นตัวสำรองในเกมที่เจอ
กับ เอาส์บวร์ก ในนาที 56 และยิงไปถึง 3 ประตูทำให้เป็นผู้เล่นคนที่สองต่อ โอบาเมย็อง
ที่สามารถทำแฮตทริกได้ในนัดแรกที่ลงสนามให้กับทีมด้วยวัยเพียง 20 ปีทำให้มีข่าวลือมากมายว่า เหล่าสโมสรสอนใหญ่ทั่วยุโรปต่างจ้องมองเพื่อที่จะกระชากตัวของ
เออร์ลิงไปร่วมที่ แต่ด้วยอายุที่ยังน้อยและยังมีความสุขกับการเล่นฟุตบอลในเยอรมัน
ทำให้เขายังตัดสินที่จะอยู่กับ เสือเหลืองต่อไปอีก

อันดับที่ 5 : ลิโอเนล เมสซี | บาร์เซโลนา
| 25 ประตู (50 คะแนน)
เมสซี่เจ้าของดาวซัลโวยุโรป 3 สมัย ปีนี้ทำไปได้ 25 ประตู ซึ่งอาจจะต่ำกว่ามาตราฐานที่
เจ้าตัวทำไว้ในหลาย ๆฤดูกาลที่ผ่านมา ด้วยอายุที่มากขึ้นรวมถึงบทบาทในสนามที่
ต้องคอยลงมาเชื่อมเกมในแดนกลางมากขึ้น ทำให้เมสซี่ไม่ได้มีโอกาสในการทำ
ประตูมากเหมือนเมื่อก่อน แต่ถึงอย่างไร 25 ประตูก็ยังมากที่สุดเป็นอันดับ 5
ของยุโรป และยังได้รางวัลดาวซัลโวประจำฤดูกาลของลาลีก้าสเปนอีกด้วย

อันดับที่ 4 : ติโม แวร์เนอร์ | ไลป์ซิก
| 28 ประตู (56 คะแนน)
อีกหนึ่งกองหน้าที่ทีมระดับแนวหน้าของยุโรปจ้องกันตาเขม่ง ติโม แวร์เนอร์ กองหน้า
ตัวเก่งสายสปีดของ อาร์เบ ไลป์ซิกที่พาทีมประกาศศักดาหลังจากเลื่อนขึ้นเล่นใน
ลีกสูงสุดของเยอรมันก็สามารถยกระดับขึ้นมาเป็น TOP 4 ของการแข่งขันใน
ทุก ๆ ฤดูกาล ในฤดูกาลนี้ แวร์เนอร์พาทีม จบอันดับที่ 3 ซึ่งก็เป็นไปตามที่
คาดการณ์เอาไว้เพราะยังมีหินก้อนใหญ่ที่ขวางทางไปสู่ความสำเร็จอย่าง
เสือเหลืองและเสื้อใต้อยู่อี ทำให้ ติโม และทีมของเขาต้องตั้งใจทำหน้าที่ของ
ตัวเองต่อไปเพื่อเข้าเส้นชัยในอนาคต

อันดับที่ 3 : คริสเตียโน โรนัลโด้ | ยูเวนตุส
| 31 ประตู (62 คะแนน)
โคตรดาวเตะชาวโปรตุเกสผู้ที่มายุย่างเข้า 35 ปี เจ้าของรางวัลดาวซัลโวลีกยุโรป
ถึง 4 สมัย ที่ย้ายมาอยู่กับ ยอดทีมอย่างยูเวนตุส ด้วยวัย 34 ย่าง 35 ที่หลาย
คนอาจจะมองว่า โรนัลโด้ คงจะไม่ได้อยู่ในจัดพีคของการค้าแข้ง อย่างเช่นที่
เป็นธรรมชาติของนักฟุตบอลเกือบทุกคนแต่กลับกัน โรนัลโด้ ยังแสดงถึงความมุ่งมั่น
มีวินัย และมีความกระหายการลงเล่นและการทำประตูอยู่ตลอดเวลา
เขายังทำประตูที่ทำให้เป็นที่ผู้ถึงในวงการฟุตบอลอยู่ตลอด อย่างเช่นลูกที่เขา
โหม่งทำประตูด้วยการที่กระโดดโดยที่เท้าอยู่ห่างจากพื้นถึง 71 เซนติเมตร

อันดับที่ 2 : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ | บาเยิร์น มิวนิค
| 34 ประตู (68 คะแนน)
หนึ่งในกองหน้าตัวเป้าที่สุดในช่วง 10 หลังในวงการฟุตบอลโลก เลวานดอฟสกี้วัย 31
ปีกองหน้าสัญชาติโปแลนด์ผู้ที่กลายร่างจากเสือเหลืองมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ
เสื้อใต้ ถล่มประตูได้อย่างมากมายในทุก ๆ ฤดูกาล โดยในฤดูกาล 2019-2020
เขาทำไปทั้งสิ้น 34 ประตูซึ่งโดยปกติถือเป็นมาตราฐานของตัวเขาอยู่แล้ว เขาคว้า
รางวัลดาวซัลโวของลีกพร้อม พาบาเยิร์น มิวนิค เข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกไปอย่างยิ่งใหญ่
และยังพาทีมไปอัด ปารีส แซงแชร์แมงในนัดชิงยูฟ่า แชมเปียนลีกส์
เก็บถ้วยใหญ่ของยุโรปกลับมาเยอรมันอีกด้วย

อันดับที่ 1 : ชิโร อิมโมบิเล | ลาซิโอ
| 36 ประตู (72 คะแนน)
กองหน้าตัวเก่งชาวอิตาเลี่ยนของลาซิโอ ที่ในช่วง 5 ปีหลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
คว้าดาวซัลโวของลีกไป 2 สมัย และในฤดูกาล 2019-2020 ก็เป็นปีที่ดีที่สุดของ
เขาในชีวิตค้าแข้งถล่มไปถึง 36 ประตู เป็นเจ้าของสถิติยิงเยอะมากสุดที่ร่วมกับ
กอนซาโล่ อิกวาอินที่ทำไว้กับ นาโปลี ในฤดูกาล 2015/2016ทำให้เขาคว้ารางวัล
ดาวซัลโวยุโรป ซึ่งเจ้าตัวยอมรับเหมือนฝันที่ได้รับรางวัล และยังมีข่าวว่า
สโมสรเตรียมต่อสัญญาเขาออกไปถึงไป 2025 อีกด้วย